ลุงพิการไปหาหมอ รถหมดเดินกลับบ้าน กลางแดดร้อนจ้า เรามันคนจนใครจะมาสนใจ!
1 min readเมื่อวันที่ 30 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าว ข่าวชัดประเด็นจริง จังหวัดปราจีนบุรี ขับรถ มาบนถนนสาย 304กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ขาล่อง ฉะเชิงเทราก่อนถึง รร.สายมิตรศึกษาต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้พบเห็นชายวัยกลางคนกำลังใช้ไม้เท้าพยุงร่างกาย เดินมาตามถนน พร้อมกับหยุดเดินในบางช่วง ลักษณะคล้ายคนเมา
เหล้ายืนไม่อยู่ และเดินมาอีกหน่อยท่ามกลาง
แสงแดดจ้ายืดหลังขึ้นในท่ายืนตรงเงยหน้าเล็กน้อย ในมือมีถุงพลาสติก ขณะหยุดเดิน ก้มดูในถุงพลาสติกเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างขณะนั้นหนุ่มใหญ่ในชุดเสื้อเชิตแขนสั้นสีครีมกางเกงขายาวสีดำ หันมาเห็นผู้สื่อข่าวที่แอบอยู่ใต้ต้นไม้ริมทาง สายตาที่มองมานั้นบ่งบอกว่าจะมีใครสนใจจะถามไถ่หรือไม่ ใบหน้าเหงื่อไหลอาบแก้มยืนถอนหายใจยาว
ผู้สื่อข่าวสบตาด้วยรับรู้ว่าชายคนนี้นั้นกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่จึงถามว่า”ตาจะไปไหนคับ”เสียงที่เปล่งตอบมาถ้าคิดมีอคติจะบอกออกมาว่า “คนขี้เหล้าหรือคนบ้า” แต่ถามย้ำไปอีก พร้อมกับสบสายตาชาย หนุ่มมอซอคนนั้น ทันทีที่ได้ยินเสียงแหบแห้งแทบหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเวทนา ชายคนดังกล่าวบอกว่ามาเอายาที่ รพ.ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ได้กลับบ้านเลย เมื่อสายๆที่ผ่านมานั่งรอรถโดยสาร
สองแถวจะมาลงที่ปากทางเข้าบ้าน แต่ลงรถผิดจึงเดินเท้ามาที่ปากทางเข้าบ้าน 800 เมตร ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ บอกอีกว่า ที่พูดน้ำเสียงแหบแห้งไม่ใช่เมาเหล้า แต่ตนเองป่วยหลังจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผ่าตัดจนพูดไม่มี เสียงและกลายเป็นคนพิการในที่สุด หนุ่มแต่ง ตัวมอซอบอกว่าคนชื่อ นายสุพิน จีนเจือ อายุ56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 251ม.5 ต.เขาไม้แก้วอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่วาน นี้โดยอาศัยนั่งรถโดยสารระหว่างหมู่บ้านมา รับยาที่ รพ.กบินทร์บุรี
(ยาเบาหวานความดัน)คนไข้เยอะกว่าจะได้ รับยาก็บ่ายเย็น รถหมดเพราะรถมีเที่ยวเดียวจึงต้องนอนค้างที่หน้ารพ.หนึ่งคืน เมื่อสายๆ จึงค่อยๆคิดค่อยทบ
ทวนว่าจะขึ้นรถมาลงตรงไหน แต่จำทางเข้าหมู่บ้านไม่ได้จึงขอลงระหว่างทาง แต่เกิดลงรถผิดเมื่อลงรถผิดก็ ต้องตัดสินใจเดินเอาค่อยๆเดินมาเรื่อยๆร่างกายไม่สมประกอบจึงเดินไปหยุดนั่งไปกระทั่งมาพบกับผู้สื่อข่าว
ผู้สื่อข่าวยังไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวมีสติดีหรือไม่ ขณะนั้นมี ตำรวจสายตรวจรถยนต์ สภ.สระบัวผ่านมาซื้อข้าวไปให้กำลังพลที่อยู่ที่ตู้ยามจึงให้ช่วยสอบถาม ซึ่งนายสุพินแสดงตัวว่าเป็นคนสุจริตชน ผู้สื่อข่าวให้ขึ้นรถเพื่อที่จะไปส่งที่บ้านระยะทาง20 กม.
ทันทีที่ไปถึงบ้านนั้นมีหญิงชรารีบออกมารับพร้อมกับถามว่า “กลับมาแล้วหรือลูกเมื่อคืนไปนอนที่ไหนมา” “ผมนอนอยู่หน้ารพ.”
แม่ยื่นมือมาจับแขนลูกชายลงเดินเข้าบ้านที่อยู่ริมถนน ทั้งสองคุย กันตามประสาแม่ลูกประโยคที่จุกอกที่สุดคือคำพูดที่จากปาก ของนายสุพิน จีนเจือ
“เรามันคนจนขนาดเห็นว่าคนบ้านเดียวกันไปหาหมอขับรถผ่านหน้าเราแท้ๆยังไม่ถาม ซักคำ”พูดเสร็จเอามือเท้าสะเอวและทราบว่าผู้เป็นแม่คือยาย
รอด จันทร์เชื้อ อายุ80 ปี ยายรอดบอกว่าแต่งงานกับสามีลูก 1 คนคือนายสุพิน สามีตายก็อยู่กับลูกชาย 2คน ก่อนหน้านี้ลูกชาย ปกติดีรับจ้างขับรถ
บรรทุกและเกิดอุบัติเหตุจนกลายเป็นคน พิการ ด้วยฐานะยาก จนไม่มีที่อยู่หลังลูก ชายกลายเป็นคนสติไม่เต็มมาขออาศัยผู้ใหญ่บ้านปลูกบ้านอยู่ ผู้ใหญ่ณัฐศรีกอง จึงให้ปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของตนอยู่กันตามลำพัง
ยายรอดบอกว่าได้เบี้ยยังชีพคนชรากับเงิน
คนพิการพอได้ประทังชีวิตไปวันๆหนึ่ง มีบ้าง
ขอข้าวสารวัดมากิน พระท่านก็แบ่งปันอาหารให้บ้าง วันนี้ยายรอดหาหอยขมในสระน้ำข้างบ้านมาต้มใส่น้ำปลาร้ากินและปลาร้าปลากระดี่กับปลาร้าสับยายรอดบอกว่าก็กินอยู่ตามมีตามเกิดสองแม่ลูกแม้จะสงสารลูกชายเวลา ไปหาหมอทีก็นั่งรถ โดยสารไป วานนี้ค่ำแล้วไม่เห็นลูกชายกลับมาบ้านก็คิดว่าหมอคงให้นอนโรงพยาบาล แต่ไม่มีรถกลับบ้านก็ต้องทำใจไม่ว่าใครชินแล้วกับชีวิตสองแม่ลูก
ภาพ/ข่าว ทองสุข สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวข่าวชัดประเด็นจริง จังหวัดปราจีนบุรี