สภากาชาดไทย ร่วมกับเอกอัครราชทูตฯ แบะสหพันธ์สภากาชาด นำร่อง “โครงการรวมใจต้านภัยโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ” จ.สมุทรสาคร
1 min readเมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 23 มิถุนายน 2563 นายเตช บุนนาค ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายบริหาร เป็นประธานแถลงข่าว “โครงการรวมใจต้านภัยโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ” ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวต้อนรับ ร่วมด้วย นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย , ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน , นายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย , นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข,นายคริสโตเฟอร์ ราสซี หัวหน้าคณะทำงานสนับสนุนกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC),นายบรูโน ปอมมิเยร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคกรุงเทพฯ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC),นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประเทศไทย,คุณคอรีเยาะ มานุแช ผู้ประสานงานโครงการเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ นายอดิศร เกิดมงคล และนายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการภูมิภาค – ภาคกลาง เอไอเอส ร่วมแถลงข่าวและร่วมเป็นเกียรติในงาน
ซึ่งโครงการรวมใจต้านภัยโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาตินี้ ก็เพื่อช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติให้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงการป้องกันตนเองและบุคคลรอบข้างต่อการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 อีกทั้งเพื่อให้แรงงานข้ามชาติที่ถูกกักกันโรคและขาดแคลนอาหาร หรือประสบวิกฤติเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือกลุ่มที่มีความเปราะบาง ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยมีสภากาชาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันจัดโครงการนี้ขึ้น ซึ่งหลังจากที่แถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายบริหารและคณะ ยังได้ลงพื้นที่ไปมอบอาหาร พร้อมด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องบริโภค ชุดธารน้ำใจกาชาด ชุดสุขอนามัย และข้าวสาร ให้แก่แรงงานข้ามชาติที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีจำนวน 43 ครัวเรือน ประชากรทั้งคนไทยและแรงงานข้ามชาติที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันประมาณ 160 คน
นายเตช บุนนาค ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายบริหาร กล่าวว่า “โครงการรวมใจต้านภัยโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ” เป็นโครงการที่มุ่งเน้นในการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาดจังหวัด และสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ร่วมกับ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ และองค์การยูนิเซฟประเทศไทย ร่วมดำเนินโครงการเพื่อแจกจ่ายและมอบสิ่งของที่จำเป็นในการป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับแรงงานข้ามชาติและเด็กในครอบครัวรวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) อาทิ หน้ากากอนามัยแบบผ้า แอลกอฮอล์เจล เครื่องวัดอุณหภูมิ และมอบชุดธารน้ำใจเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต โดยที่ผ่านมาสภากาชาดไทยได้มอบชุดธารน้ำใจให้กับแรงงานข้ามชาติและครอบครัวที่ว่างงานเพราะถูกเลิกจ้างและได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดต่าง ๆ ไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 5,368 ชุด นอกจากนี้ยังได้จัดทำสื่อเพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ อาทิ แผ่นพับเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับภาษาพม่า ภาษากัมพูชา และภาษาเวียดนาม เป็นต้น
สำหรับ “โครงการรวมใจต้านภัยโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ” ได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย มอบเงินสนับสนุนเพื่อใช้ในโครงการ จำนวน 330,000 บาท บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) สนับสนุนอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ในงานแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” แก่อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวและแกนนำแรงงานที่ผ่านการอบรมและได้รับสิทธิ์ในการแจ้งข่าว จำนวน 4,000 คน เพื่อพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวและแกนนำหอพักแรงงานข้ามชาติ ให้มีส่วนร่วมในการค้นหาผู้มีอาการของโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และค้นหาแรงงานข้ามชาติที่เข้าประเทศมาโดยยังไม่ได้ผ่านการกักกันโรค 14 วัน โดยแจ้งข่าวผ่านแอปพลิเคชั่น “พ้นภัย” เพื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะได้ไปสอบสวนโรค คัดกรองและส่งต่อเข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุข โดยมีรางวัลให้แก่ผู้แจ้งข่าว มีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานด้านสาธารณสุขระดับจังหวัด รวมถึงหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน เป็นหลักในการดำเนินกิจกรรมนี้ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัด ซึ่งจะเริ่มนำร่องในจังหวัดสมุทรสาคร และขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสและระยะเวลาในการแพร่โรคโควิด-19 ในชุมชนแรงงานข้ามชาติ
ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคเงิน 63 บาท ในโครงการ “63 บาท สู้ COVID-19 ปี’63” เพื่อสนับสนุนภารกิจของสภากาชาดไทย ด้วยการสแกน QR CODE ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารในระบบ E-DONATION หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ” ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 001-1-34567-0 สอบถามเพิ่มเติมโทร.1664
ภาพ/ข่าว ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร
พื้นที่โฆษณา
คลิกเลย -> https://t.youpik.in.th/t.Eb1K
ช้อปเลย: ฿999.00 -33% | Electrica Mall กล้องติดรถยนต์ TR50 สุดยอดกล้องติดรถ 2 ก
จอแสดงผล 4.3 นิ้ว
ความละเอียดสูงระดับ FULL HD 1920x1080P
มีกล้องทั้งหน้าและหลัง มีระบบIR SENSORมองภาพกลางคืนได้
มุมมองการบันทึกว้าง กล้องหน้า 140 องศา (เลนกล้องด้านขวา) และกล้องหลัง 120 องศา
ไฟกล้องหลัง มาพร้อมกับ LED 4 ดวง
ภาษาเมนู:ไทย/English/Chinese (เปิดเครื่องตั้งค่าเริ่มต้นเป็นไทย)
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 128 GB
แบตเตอรี่ bulit-in 450 mAh
รองรับระบบLDW: ระบบแจ้งเตือนการขับรถออกนอกเลนอัจฉริยะ เมื่อผู้ขับเบี่ยงเลนอย่างกระทันหัน ระบบจะส่งเสียงเตือนเพื่อป้องกันการหลับในหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
รองรับระบบWDR: ฟังก์ชั่นปรับแสงสว่างอัตโนมัติ ไม่ว่าจะที่แสงจ้าหรือแสงน้อยก็ทำให้ภาพทีได้ดูคมชัดสมจริง เก็บรายละเอียดได้ครบ
รองรับระบบG-Sensor : ล็อกไฟล์อัตโนมัติ เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถ หมดกังวลเรื่องไฟล์เหตุการณ์สำคัญจะถูกลบ หรือบันทึกทับไป
รองรับระบบLoop Recording : บันทึกวีดีโอ แบบหมุนวน เมื่อพื้นที่จัดเก็บเต็ม กล้องจะบันทึกไฟล์วีดีโอใหม่ ทับไฟล์เดิมไฟล์แรกสุด ทำให้บันทึกได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องกลัวว่า พื้นที่จัดเก็บจะเต็ม
รองรับระบบMotion Detection : บันทึกเมื่อเกิดความเคลื่อนไหวเท่านั้น เพื่อประยัดRAMการใช้งานในกระจกวีดีโอ