เกษตรกรเมืองชาละวันเคยปลูกอ้อย ปลูกข้าว หันรวมกลุ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตปลูกหญ้าเลี้ยงวัว-ควาย ยืนยันรายได้ดี!! (มีคลิป)

เกษตรกรยุคใหม่ หัวไว ใจสู้ หมั่นเรียนรู้กล้าเปลี่ยนแปลง ชาวนาชาวไร่อ้อยเมืองชาละวันหลังจากประสบปัญหาภัยแล้งและราคาผลผลิตตกต่ำ ตัดสินใจหันมาปลูกหญ้าเป็นอาหารสัตว์และทำฟาร์มเลี้ยง วัว ควาย มีรายได้เป็นกอบเป็นกำรวมกลุ่มขับเคลื่อนขยายผล ลดพื้นที่การทำนา การทำไร่อ้อย เชื่อมั่นการเลี้ยงสัตว์ขาย มีรายได้ดีกว่าการทำนาปลูกข้าว ทำไร่ปลูกอ้อย

วันที่ 6 ก.ค. 2563 นางจรุณี ดำช่วย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์พิจิตร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าที่กรมปศุสัตว์ส่งเสริมให้เกษตรกรลดพื้นที่การทำนาเพื่อปลูกหญ้าแพงโกล่าจำหน่ายโดยได้ร่วมกับ นายกิตติพงศ์ อุดมเศรษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์สำนักงานปศุสัตว์เขต 6 , นายฐาปนพงศ์ แสงทอง นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ , นายวรวัฒน์ บรรทัดทอง ปศุสัตว์อำเภอโพธิ์ประทับช้าง โดยได้ไปพบกับกลุ่มเกษตรกรที่ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นบ้านของ นายสมศักดิ์ พึ่งนาม อายุ 53 ปี ตั้งอยู่ที่ 196/2 หมุ่ 9 ต.ทุ่งใหญ่ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร พร้อมด้วยกลุ่มสมาชิกจำนวน 10 ราย ที่แต่เดิมทำนาแล้วประสบปัญหาภัยแล้งและราคาผลผลิตตกต่ำจึงรวมตัวกันเข้าโครงการขอลดพื้นที่การทำนาแล้วหันมาปลูกหญ้าแพงโกล่าเพื่อจำหน่ายและนำมาเลี้ยงโค-กระบือ โดย นายวุฒิพงษ์ หงษ์ทอง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197/6 หมู่ 6 บ้านหนองพงษ์ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร มีที่ดิน 24 ไร่ แต่เดิมทำนาปัจจุบันลดพื้นที่การทำนาลงโดยใช้พื้นที่ 15 ไร่ ปลูกหญ้าแพงโกล่าและเลี้ยงวัวจำนวน 30 ตัว นายวุฒิพงษ์ เกษตรกรผู้กล้าคิดออกนอกกรอบ เล่าว่า ทุกวันนี้มีรายได้แบบรายวัน นั่นคือ ขายมูลโค – กระบือ ที่นำมาทำเป็นปุ๋ยคอกขาย นอกจากนี้หญ้าแพงโกล่าที่ลงทุนปลูกปีแรกใช้เงินเฉลี่ยไร่ละ 12,320 บาท แต่สามารถตัดหญ้าแพงโกล่าขายมีรายได้ปีละ 21,600 บาท / ไร่ / ปี คิดแล้วได้กำไร 9,280 บาท / ไร่ / ปี ดีกว่าการทำนาและสามารถเก็บเกี่ยวในปีที่ 2 -10 โดยลงทุนเพียงแค่การดูแลรักษาและใส่ปุ๋ยรวมถึงค่าแรงคิดแล้วก็ยังได้กำไรไร่ละ 10,830 บาท / ไร่ /ปี ซึ่งถือเป็นช่องทางใหม่ของการหารายได้ทดแทนการทำนา

เช่นเดียวกับ นายฐปนรรฆ์ ผิวอ่อนดี “เสี่ยวิน” อายุ 46 ปี เจ้าของกิจการขวัญจิตรฟาร์ม เลขที่ 162 หมู่ 10 บ้านคลองเจริญ ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ที่แต่เดิมจากประสบการณ์ 12 ปี ทำไร่ปลูกอ้อยจำนวน 300 ไร่ แต่ประสบปัญหาด้านราคา- ภัยแล้ง รวมถึงมาตรการห้ามเผาอ้อยก่อนตัด ทำให้มีต้นทุนด้านค่าแรง

ทุกวันนี้จึงหันมาลดพื้นที่การทำไร่อ้อยลง 65 ไร่ โดย 15 ไร่ ปลูกหญ้าแพงโกล่า ทำหญ้าอาหารสัตว์ อัดก้อนขาย ก้อนละ 80 บาท น้ำหนัก 20 กก. ส่วนพื้นที่อีก 50 ไร่ ปลูกหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 ทำเป็นหญ้าหมักบรรจุถุงขาย ถุงละ 25 กก. ในราคาตันละ 1,200 บาท ทำให้พื้นที่ 65 ไร่ ที่ปลูกหญ้าอาหารสัตว์ขาย มีรายได้เฉลี่ยปีละเกือบ 400,000 บาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำดีกว่าการปลูกอ้อยเสียด้วยซ้ำ

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากลด ละ เลิก การทำนา แล้วอยากหันมาปลูกหญ้าแพงโกล่า-หญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 เพื่อทำขายเป็นอาหารสัตว์หรืออยากปลูกหญ้าเพื่อเป็นอาหารสัตว์ สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดูงาน สนใจโทร “เสี่ยวิน” โทร 099-3695253 , นายสมศักดิ์ พึ่งนาม หมู่ 9 ต.ทุ่งใหญ่ โทร 081-9433188 , นายวุฒิพงษ์ หงษ์ทอง หมู่ 6 บ้านหนองพงษ์ โทร 086-9260465 หรือ นางจรุณี ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์พิจิตร โทร 087-2943049

ภาพ/ข่าว สิทธิพจน์ พิจิตร

##พื้นที่โฆษณา

คลิกเลย -> https://t.youpik.in.th/t.DQji

ช้อปเลย: ฿359.00 -64% | กล้องติดรถยนต์2กล้อง กล้องติดรถยนต์กระจกกันแสงสะท้อน

ความละเอียดสูงระดับ1920x1080P แสดงผล4.3นิ้ว（จอด้านซ้าย） 170 องศา การบันทึกกว้างกล้องหน้า 170 องศา（เลนกล้องด้านขวา）และกล้องหลัง120องศา กล้องหลังมาพร้อมกับLED 4ดวง รองรับเมนูภาษาไทยทำให้การตั้งค่าและการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆสามารถตั้งค่าได้ง่ายๆ รองรับ Micro SD Card สูงสุด 32 GB WDR：ฟังก์ชั่นปรับแสงสว่างอัตโนมัติไม่ว่าจะที่แสงจ้าหรือแสงน้อยก็ทำให้ภาพทีได้ดูคมชัดสมจริงรายละเอียดได้ครบ G-Sensor : ล็อกไฟล์อัตโนมัติ เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถ หมดกังวลเรื่องไฟล์เหตุการณ์สำคัญจะถูกลบ หรือบันทึกทับไป Loop Recording : บันทึกวีดีโอ แบบหมุนวน เมื่อพื้นที่จัดเก็บเต็ม กล้องจะบันทึกไฟล์วีดีโอใหม่ ทับไฟล์เดิมไฟล์แรกสุด ทำให้บันทึกได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องกลัวว่า พื้นที่จัดเก็บจะเต็ม Motion Detection : โหมดตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อมีวัตถุผ่านหน้ากล้อง กล้องจะเริ่มบันทึก