ผู้การปทุมฯ รุดสอบ 2 เอเย่นต์ ยาเคนมผง เร่งขยายผลลุยปราบให้หมด (มีคลิป)
1 min readจากกรณี ที่ พ.ต.อ.ศักดิ์ สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง.ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรรถพงษ์ จันทนะสร รอง.ผกก.สอบสวน สน.สายไหม พ.ต.ท.เข็มกล้า มั่นพลับ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.ประพันธ์ พูนรัตน์ รอง.สว.สส.สน.เตาปูน(ช่วยราชการ ชปส.บก.น.2) ร.ต.ท.จรัส ผึ้งเถื่อน รอง.สว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง ได้ร่วมกันจับกุมนายนพดล หรือ”ฮัท” นุตตะโยธิน อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 222/205 ซอยสุขขาภิบาล 5 ซอย 63 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และ นายนฤเดช หรือ”ฟิวเจอร์ ” ภู่หอม อายุ 19 ปี พร้อมด้วยของกลางเป็นยาเคตามีนทั้งหมด รวม 27 กรัม ในข้อหา “มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยจับกุมทั้งสองคนได้ภายในคอนโดเดอะคิทท์ ลำลูกกา เฟส 3 หมู่ 5 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 ม.ค. 64 ที่ห้องสอบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิษณุรักษ์ พรหมเมศร์ ผกก.สภ.คูคต และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันสอบสวน นายนพดล หรือ”ฮัท” นุตตะโยธิน และ นายนฤเดช หรือ”ฟิวเจอร์” ภู่หอม โดยทำการสอบสวนประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนจะนำตัวเข้าห้องควบคุม
พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า จากที่ ตำรวจ บก.น.2 ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ และนำมาส่งที่ สภ.คูคต ทาได้ทำการสอบสวนเพื่อขยายผล โดยทางผู้ต้องหาทั้งสองให้การเป็นประโยชน์ แต่ว่ายังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เกรงว่าจะทำให้เสียรูปคดี และทำให้ผู้ร่วมขบวนการหลบหนีไป ส่วนตัวยานั้นจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าเป็นคนละสูตรกันกับ เคนมผง ที่สูดดมแล้วทำให้เสียชีวิต โดยมีตัวยาอีก 1 ตัวที่เรียกว่า”โรเจอร์”ผสมอยู่ แต่นี้ก็เป็นเพียงคำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ส่งตัวยาไปพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้งก็จะได้ความชัดเจนว่าจะมีส่วนผสมของโรเจอร์ ที่เขาเรียกว่าเคนมผงหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ทางตนได้สั่งการไปทั้งสองโรงพัก คือ สภ.ลำลูกกา และ สภ.คูคต ซึ่งเป็นท้องที่อยู่ในเขตอำเภอลำลูกกา ที่มีกระแสข่าวว่ามีการซื้อขายกันในพื้นที่นี้ จึงกำชับและเร่งขยายผลให้ตำรวจสืบสวนหาข่าวเพื่อจะได้ทำการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ที่ขายเพื่อปราบให้หมด และจะสาวไปให้ถึงตัวการใหญ่ให้ได้ ผู้การปทุมฯ กล่าว
ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน
