ผบช.ภาค 3 ห่วงใยประชาชนทำโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซนเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ชื่นชม สภ.กันทรลักษ์ดำเนินการตามนโยบายได้อย่างดีเยี่ยม (มีคลิป)
1 min readเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้เป็นประธานเปิดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน ซึ่ง พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นตามนโยบายของ ผบช.ภาค 3 ที่มุ่งเน้นในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ และแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนและหน่วยงานต่างๆ และมีการมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรหลานของตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ การมอบแอลกอฮอล์ทำความสะอาดป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง ผบ.ฉก.1 กองกำลังสุรนารี นายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ นายกเทศมนตรีกันทรลักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รักษาราชการแทน นอภ.กันทรลักษ์ หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชนจำนวนมากมาให้การต้อนรับและเข้าร่วมพิธีเปิดโครงการครั้งนี้ หลังจากนั้น ผบช.ภาค 3 และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินการโครงการ ในเขตเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ ซึ่งพบว่า มีการติดตั้งกล้อง CCTV จำนวนมาก
พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า สภ.กันทรลักษ์ ได้ดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน โดยได้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่ถนนสินประดิษฐ์ ตั้งแต่แยกเมืองทองไปจนถึงแยก กม. 0 รวมระยะทาง 850 เมตร เนื่องจากว่า ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีการประกอบกิจการ มีสถาบันการเงินและร้านค้าสะดวกซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรม โดยได้มีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ จัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน จัดสายตรวจชุมชนและตำรวจบ้าน มีการมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการสำรวจตรวจสอบการใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV)ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประสานงานหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่สนองนโยบายของ ผบช.ภาค 3 อย่างเต็มที่
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) กล่าวว่า แนวคิดในเรื่องการจัดทำโครงการนี้เนื่องจากว่า ถ้าการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ จะส่งผลทำให้อาชญากรรมลดลง แล้วถ้าถามว่า เครื่องมืออะไรที่ทำให้ ตร.เราสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ กล้อง CCTV ถ้าเรามีกล้อง CCTV ที่สามารถบันทึกภาพเรียลไทม์ได้ ถ้าหากมีเหตุเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ ตร.ก็จะสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลทำให้อาชญากรรมลดลง นี่คือหัวใจหลักของโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) กล่าวต่อไปว่า อ.กันทรลักษ์เป็นอำเภอใหญ่มีชุมชน มีร้านทอง ร้านสะดวกซื้อและสถาบันการเงินหลายแห่ง จึงมีความจำเป็นมากที่จะต้องเกิดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน โดยได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษและ พ.ต.อ.นรินทร บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ว่าได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจาก นายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ นายกเทศมนตรีเมืองกันทรลักษ์ ที่ได้ให้ทั้งความร่วมมือและให้งบประมาณมาสนับสนุนโครงการนี้ ทำให้ประชาชนมีความเข้าใจโครงการนี้มากขึ้น จากเดิมที่มีกล้องวงจรปิด (CCTV) ประมาณ 10 ตัวเศษ ก็ได้มีการติดตั้งเพิ่มมาถึง 39 ตัว สามารถบันทึกภาพกรณีที่มีเหตุแล้วเราสามารถรวบรวมพยานหลักฐานย้อนหลังได้จำนวน 312 ตัว นับว่าเป็นโครงการที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนตามชุมชน โดยถ้ามีการติดกล้องมากเท่าไร ชุมชนก็จะยิ่งมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น
ภาพ/ข่าว บุญทัน ธุศรีวรรณ