ผบช.ภาค 3 ตรวจเยี่ยมและเปิดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซพตี้โซน หรือ 1-DOSZ ช่วยป้องกันแก้ไขการก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)
1 min readผบช.ภาค 3 ตรวจเยี่ยมและเปิดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซพตี้โซน หรือ 1 – DOSZ ช่วยป้องกันแก้ไขการก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ ด้วยกล้องวงจรปิด ( CCTV ) ที่มีประสิทธิภาพก็จะสามารถช่วยในการสืบสวนจับกุม หรือรู้ตัวผู้กระทำความผิด
(วันที่ 14 มกราคม 2563) เวลา 10.00 น.ที่ สภ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและเปิดโครงการ 1อำเภอ 1 เซพตี้โซน หรือ 1 – DOSZ โดยมี พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง พร้อมด้วย ผู้กำกับการ สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธร ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และนายเรืองยศ ลิ้มนุกูลเจริญ นายอำเภอกาบเชิง นายโอฬาร อยู่กาญจนเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลกาบเชิง และประชาชนชาวอำเภอกาบเชิง เข้าร่วมในการเปิดโครงการ นอกจากนั้นยังได้ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจคักกรองการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโครนา หรือโควิด- 2019มอบทุนการศึกษา ให้แก่บุตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด สภ.กาบเชิง ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แมงมุด มอบทุนการเรียนให้บุตรข้าราชการตำรวจ สภ.แนงมุด
สำหรับโครงการ 1อำเภอ 1 เซพตี้โซน หรือ 1 – DOSZ มาจากการประชุมมอบนโยบายการบริหารราชการของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เมื่อวันที่ศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563 ณ สโมสรตำรวจ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้ทุกหน่วยดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด ( CCTV ) ทั่วประเทศเพิ่มเติม เพื่อลดอาชญากรรมและป้องกันผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นความผิดต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ได้สั่งการให้ทุก สภ.ในสังกัด ตำรวจภูธร ภาค 3 ดำเนินการโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน กำหนดพื้นที่เป้าหมาย จากนั้นให้สำรวจข้อมูลกล้องวงจรปิดในเขตพื้นที่ดังกล่าว แล้วประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน ทำให้ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ หากเป็นไปได้ ให้เชื่อมสัญญานกล้องวงจรปิดมายัง ที่ทำการ สถานีตำรวจเพื่อเป็นข้อมูล และให้พิจารณากำหนดจุดเสี่ยง และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ ความสำคัญของกล้องวงจรปิด ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้ง พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ซึ่ง หากคนร้ายทราบว่า ในพื้นที่จุด เซฟตี้โซน นั้น มีกล้องวงจรปิดอยู่หนาแน่น จะเป็นการป้องปราบคนร้าย ให้ยับยั้งไม่กระทำความผิด และหากมีเหตุขึ้น กล้องวงจรปิดจะใช้เป็นข้อมูลการสืบสวนและใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน ยืนยันการกระความผิดของคนร้ายต่อไป
พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง กล่าวว่า ทาง สภ.กาบเชิง ได้กำหนดพื้นที่เซพตี้โซน จาก หน้าโรงพยาบาลกาบเชิง ถึงศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพชายแดนช่องจอม เนื่องจากมีประชากรหนาแน่นและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของ อำเภอกาบเชิง โดยมีการประสานขอความร่วมมือกับเทศบาลกาบเชิง เชื่อมโยงสัญญานกล้องจรปิด มายังที่ทำการ สภ.กาบเชิง ณ ศูนย์ปฏิบัติการโครงการ 1 อำเภอ 1 เซพตี้โซน โดยปัจจุบัน โครงการ 1 อำเภอ 1 เซพตี้โซน ซึ่งได้ร่วมกับเทศบาลกาบเชิง สามารถครอบคลุมพื้นที่เทศบาล ต.กาบเชิง คิดเป็นร้อยละ 25 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่อำเภอกาบเชิง สามารถคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 12,800 คน คิดเป็นร้อยละ 37 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรอำเภอกาบเชิงทั้งหมด จากนั้นจะได้มีตรวจสอบประเมินผล เปรียบเทียบสถิติการเกิดคดีอาญา เพื่อนำแนวคิดดังกล่าว ไปประชาสัมพันธ์ และนำโครงการ 1 อำเภอ 1 เซพตี้โซนของเทศบาลตำบลกาบเชิง เพื่อเป็นโครงการต้นแบบ หรือ โมเดล เผยแพร่ไปยัง ท้องถิ่นตำบลอื่นๆ ต่อไป
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 กล่าวว่า โครงการ 1 อำเภอ 1 เซพตี้โซน เกิดจากภายใต้แนวคิดที่ว่า การบังคับใช้กฎหมาย ของตำรวจที่มีประสิทธิภาพส่งผลต่อปัญหาอาชญากรรมลดลง เครื่องมือที่ทำให้ตำรวจทำงานรวดเร็วโป่รงใส ก็คือกล้อง CCTV จึงเกิดโครงการ โครงการ 1 อำเภอ 1 เซพตี้โซน เพื่อทำให้ชุมชนนั้นพื้นที่นั้นปลอดอาชญากรรม ทั้งนี้ทั้งนั้น การขับเคลื่อนโครงการ จะต้องมีการแสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายๆ เช่นผู้นำท้องถิ่น คหบดี เจ้าของกิจการ ร้านทอง ประสานงานในการติดตั้งวงจรปิด โดยผู้ที่จะชี้จุดในการติดตั้งกล้อง ก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้แจ้งว่าในพื้นที่อำเภอกาบเชิง ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกาบเชิง กกต.ตร.สภ.กาบเชิง ร้านทองต่างๆ และขอความร่วมมือจากร้านค้าหน่วยงานต่างๆรวมถึงขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือในการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงเป็นประโยชน์แก่ประชาชนโดยทั่วไป