สุดช้ำ!! หวังกู้เงินต้องโอนจ่ายค่าประกันไปก่อนสุดท้ายทั้งถูกด่าและข่มขู่ก่อนบล็อคเฟสฯหนี
1 min readวันที่ 5 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ คุณสุริยา เข้มแข็ง อายุ 41 ปี พักอยู่ที่หมู่บ้านเลขที่ห้า หมู่ที่ 7 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากเมื่อวันที่18 พฤศจิกายน 2562 คนสุริยา ได้ติดต่อกับผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งชื่อ(Bonita Darla)เป็นผู้ที่ปล่อยเงินกู้ ดอกเบี้ยร้อยละ2 บาทต่อเดือน
โดยเมื่อวันที่18 พฤศจิกายน 2562 เฟสบุ๊คดังกล่าวได้ส่งข้อความภาพโบกมือทักทายผ่านมาทางเฟสบุ๊คของคุณสุริยา เป็นช่วงที่เงินขาดมือต้องหมุนค่าใช้จ่ายในครอบครัวหลายอย่าง คุณสุริยาจึงเข้าไปดูโปรไฟล์จึงทราบว่าผู้ใช้เฟสบุ๊ครายดังกล่าวปล่อยเงินกู้ด้วย จึงแชทไปแจ้งความประสงค์ว่า “อยากกู้เหมือนกันต้องทำ อย่างไรบ้างผมอยู่สมุทรสาคร” และได้รับข้อความตอบกลับมาว่าเอกสารที่ใช้ในการกู้เงินประกอบด้วยสำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านหน้าแรกสมุดบัญชี (เลขบัญชีธนาคาร) พนักงานโรงงาน/บริษัท/งานราชการส่งที่อยู่ที่ทำงานด้วย กรณีค้าขายธุรกิจส่วนตัวถ่ายรูปร้านกิจการมาด้วย แจ้งชื่อนามสกุลที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์ติดต่อรูปถ่ายปัจจุบัน1รูป เงินค้ำประกันหมื่นละ1,000 บาท ไม่หักในวงเงิน (ได้คืนเมื่อส่งเงินหมด)ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อเดือน เอกสารทุกอย่างถ่ายรูปส่งทางข้อความ เมื่อทราบรายละเอียดดังกล่าวแล้วคุณสุริยาก็ยังสอบถามเงื่อนไขในการจ่าย ซึ่งเป็นการผ่อนรายเดือน แต่ไม่ได้ปรึกษาคนในครอบครัว จากนั้นก็สนทนาโต้ตอบกันว่า เอาแค่หมื่นเดียวได้หรือเปล่า? “ได้ครับ” ผมขับวินมอเตอร์ไซค์ได้หรือเปล่า? เวลาส่งคืนโอนไปให้ใช่หรือเปล่า? “ใช่ครับ” เมื่อก่อนผมอยู่กำแพงเพชรตามบัตรแต่ผมย้ายมาอยู่ที่สมุทรสาครแต่บัตรยังไม่ได้เปลี่ยนใช้ได้หรือเปล่า? “ได้ครับ ส่งที่อยู่ปัจจุบันมาด้วย” เดี๋ยวผมส่งเอกสารให้พรุ่งนี้นะครับ ทักได้ตลอดใช่หรือเปล่าครับ? “ครับ” คุณสุริยายังได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเฟสดังกล่าวและถามไปอีกว่า ช่วงนี้ไม่เห็นมีโพสต์เลยครับ? “ลูกค้าเยอะครับไม่ได้ว่างโพสต์ หากใครจะกู้เขาก็อินบล๊อคมาคุยอยู่แล้วครับ” ครับถ้าส่งเอกสารวันนี้รู้ผลเมื่อไหร่? “ส่งเอกสารชำระเงินประกันรอ2วันได้เงินกู้ครับ” หลังจากสนทนาถึงรายละเอียดเงื่อนไข ส่งเอกสารหลักฐานให้เรียบร้อยแล้ว คุณสุริยาแจ้งที่อยู่กันเป็นที่ชัดเจนแล้ว ก็มีความหวังว่าจะได้เงินกู้ 10,000บาท อย่างแน่นอน
กระทั้งวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.48 น. คุณสุริยาก็ได้โอนค่าประกันจำนวน 1,000บาทซึ่งเป็นเงินส่วนตัวที่เหลือติดบัญชี โอนเข้าเลขที่บัญชี866-233704-5 ธนาคาร ไทยพาณิชย์ ชื่อกมลทิพ ทองทิ หลังจากได้รับแจ้งไว้ว่าจะดำเนินการภายใน 2 วันก็ได้ติดตามผลว่าเป็นอย่างไรบ้าง? กลับได้คำตอบที่แสนเจ็บใจ โดยตอบกลับมาว่า “ถ้าไม่อยากให้เอกสารกลายเป็นหนี้หลักแสนหลักล้านหรือเอาเอกสารไปทำอะไรผิดกฎหมายถือว่านี่เป็นค่าโง่และกัน ถ้ามึงทำให้เป็นเรื่องวุ่นวายกูจะเอาเอกสารมึงไปใช้ทันที มึงอาจจะต้องแก้ปัญหาและจะเสียเงินมากกว่านี้ก็ได้ เตือนละนะ” จากนั้นเฟสบุ๊คดังกล่าวก็ได้บล็อกหนีไป คุณสุริยา บอกอีกว่า ตอนแรกก็อยากจะกู้ในจำนวน 20,000 บาทแต่กลัวว่าจะส่งไม่ไหว หลังจากถูกหลอกแล้วจึงได้ รวมหลักฐานไปแจ้งความที่สภ.เมืองสมุทรสาคร เพราะเกรงว่ามิจฉาชีพรายนี้จะนำเอกสารส่วนตัวของคนสุริยาไปใช้ในทาง ที่ผิดกฎหมาย หรืออาจจะเป็นหนี้สินในภายหลัง จากข้อมูลที่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ในเบื้องต้นแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารอายัดบัญชีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันก็ได้เกิดขึ้นกับหลายๆคนในพื้นที่สมุทรสาคร ผู้เสียหายมาแจ้งกันบ่อย มิจฉาชีพจะใช้ชื่อFacebook และชื่อบัญชีที่ไม่ซ้ำกัน อาจจะทำกันเป็นกระบวนการก็เป็นไปได้ ส่วนมากการกระทำในลักษณะดังกล่าวจะใช้รูปของคนอื่นมาตั้งโปรไฟล์ สำหรับคุณสุริยา แม้จะตกเป็นเหยื่อ แต่การออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมของมิจฉาชีพ อยากฝากเตือนไปยังคนอื่นๆ ใครจะต่อว่าซ้ำเติมก็ไม่เป็นไร เพราะถ้าใครไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเรื่องเงินก็คงไม่เข้าใจ ผู้ที่จะหาเงินหลีกเลี่ยงการถูกหลอก อยากให้ตรวจสอบดูให้ดี เช่นตัวเองอยากได้เงินก้อนมาใช้ สุดท้ายก็พลาด มันไม่มีจริงการที่จะได้เงินของเขามามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และฝากบอกกับมิจฉาชีพว่า “เงินหนึ่งพันตนเองไม่ติดใจจะเอาคืนยกให้ไป แต่ขอร้องว่าอย่าไปทำกับใครอีก คนอื่นเขาก็เดือดร้อนเยอะมาทำแบบนี้มันไม่ดี” ไม่ควรจะติดต่อทำธุรกรรมทางการเงินกันทางสื่อโซเชียล และควรขอคำปรึกษาจากคนที่น่าจะให้คำแนะนำได้
ภาพ/ข่าว ชูชาติ แดงพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร