จังหวัดสงขลา เร่งกำหนดมาตรการการควบคุมมิให้มีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และสิ่งของผิดกฎหมายตามแนวพื้นที่ชายแดนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
1 min readสงขลา/สะเดา จังหวัดสงขลา เร่งกำหนดมาตรการการควบคุมมิให้มีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และสิ่งของผิดกฎหมายตามแนวพื้นที่ชายแดนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มข้นลาดตระเวนทุกตารางนิ้ว
เมื่อวันที่ (21 ม.ค. 64) ณ ห้องประชุมผาดำอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 สถานีตำรวจภูธรสะเดา สถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์ สถานีตำรวจภูธรคลองแงะ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 กองร้อยทหารราบที่ 5021 เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนร่วมกำหนดมาตรการการควบคุมมิให้มีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และสิ่งของผิดกฎหมายตามแนวพื้นที่ชายแดนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่ ประเทศมาเลเซียได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียได้ขยายการใช้มาตรการปิดประเทศ โดยประเทศมาเลเซียจะ อนุญาตให้ชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติที่มีวีซ่าที่ได้รับเอกสารอนุญาตจากรัฐบาลมาเลเซียเท่านั้น ที่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ ซึ่งประกอบกับปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และ เพิ่มความเข้มข้นในการจัดให้มีการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเข้าไปในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด และให้กำกับดูแลสถานประกอบการ รวมทั้งภาคเอกชนมิให้จ้างแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในห้วงเวลานี้
สำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีพื้นที่แนวรั้วชายแดนเป็นระยะทางกว่า 80 กิโลเมตรและมักพบการลักลอบเข้าพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง จังหวัดสงขลาจึงได้ยกระดับการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ตลอดทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน รวมถึงการวางแนวป้องกันทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง โดยตั้งเครื่องกีดขวาง เพิ่มการลาดตระเวน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติ ทั้งทางน้ำและทางบก ส่วนการปฏิบัติในพื้นที่ชั้นในให้ผู้นำชุมชนช่วยสอดส่องพื้นที่ตนเอง หากพบบุคคลแปลกหน้าหรือแรงงานที่หลบหนีมาจากประเทศมาเลเซียให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที
พร้อมทั้ง ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันทำงานอย่างหนักในห้วงของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง เพิ่มมาตรการสำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ตลอดจน ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ โดยการสวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อป้องกันตนเอง เนื่องจากมีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อตลอดเวลา
ทั้งนี้ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลาได้มีการจับกุมบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 19 มกราคม 2564 ซึ่งจับกุมทั้งหมดจำนวน 15 คดี จำนวนผู้ต้องหา 181 ราย โดยเป็นชาวเมียนมาร์ทั้งหมด
ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา