ศอ.บต. ร่วมกับสถาบันการศึกษา ระดมแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
1 min readวันนี้ (29 มกราคม 2564) ที่ ห้องประชุมน้อมเกล้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุมพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายอิสระ ละอองสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ตลอดจน ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันวิจัยยาง ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาอาพืช สถานีพัฒนาที่ดิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม รวมทั้งได้มีการประชุมผ่านระบบ Zoom กับหน่วยงานในสังกัดซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและเกี่ยวข้องในเรื่องยางได้ร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
สืบเนื่องจากการระบาดของโรคใบร่วงยางพารา เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อคอลเลตโตริกัม (Colletotrichum Leaf Disease) ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ยิ่งเพิ่มทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรมีรายได้จากผลผลิตยางพาราน้อยลง เกษตรกรไม่สามารถป้องกันรักษาการระบาดของโรคใบร่วงยางพาราด้วยตนเอง ศอ.บต. จึงได้จัดการประชุมหารือในครั้งนี้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางในการแก้ไขปัญหา และหาสาเหตุของการเกิดโรคระบาดตลอดจนหาวิธีการยับยั้งไม่ให้โรคระบาดนี้กระจายเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ศอ.บต. จะเป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เผยว่า วันนี้ทาง ศอ.บต. ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ การยางแห่งประเทศไทย สถาบันการศึกษาในพื้นที่และจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด และหน่วยงานในจังหวัด ส่วนงานของสภาเกษตร รวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มาร่วมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาโรคระบาดใบร่วงในยางพารา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการระบาดอย่างหนักและรุนแรง เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2562 และปลาย 2563 ทั้งปี ขณะนี้ในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสเข้ามาแล้ว 80% พื้นที่การทำสวนยางได้รับผลกระทบ 770,000 ไร่ จาก 900,000 ไร่ของยางพาราในจังหวัดนราธิวาส เพราะฉะนั้น ผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ในขณะนี้พื้นที่ของการระบาด ปริมาณน้ำยางลดลงประมาณ 40-50% ซึ่งประชาชนในพื้นที่ 70-80% เป็นพี่น้องเกษตรกรที่ทำสวนยางหรือกรีดยาง วันนี้ทุกภาคส่วนจึงเร่งหาทางแก้ไข โดย ศอ.บต. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยางแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ร่วมมือกันชี้แจงในการวิเคราะห์หาเชื้อ ได้ตรวจพบอะไรบ้าง พบปัจจัยอะไรที่ทำให้การระบาดมันขยายตัว และพบแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร และจะนำไปสู่ประเด็นต่อไปคือในระยะสั้นเร่งด่วนต้องทำอย่างไร เบื้องต้นทางสถาบันวิจัยยางแห่งประเทศไทยจะร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยที่ได้ทำการวิจัยสารชีวภัณฑ์ จะนำไปขยายผลหลายพื้นที่ รวมทั้งร่วมมือกันใช้สารเหล่านี้ เพื่อให้เกิดการยับยั้งโรคให้เร็วที่สุด ในส่วนระยะยาว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งจัดหางบประมาณต่างๆมาเพื่อบำรุงรักษา ซึ่งจำเป็นต้องฟื้นสภาพโดยเร็ว รวมทั้งปรับเปลี่ยน เทคนิคกระบวนการทำงานสวนยาง ดูแล รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะร่วมกันอย่างสุดความสามารถที่จะยับยั้งและฟื้นฟูสภาพให้เร็วที่สุด ศอ.บต. จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยง หนุนเสริมและเติมเต็ม
ด้าน นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย เผยว่า โรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมาและเกิดการร่วงอย่างรุนแรง พื้นที่การแพร่ระบาดขณะนี้เกิดขึ้นใน 5 ประเทศ โดยประเทศอินโดนีเซียหนักที่สุด ประเทศไทยอยู่อันดับ 2 ในส่วนของด้านการยางแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการ 3 มาตรการหลักเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประกอบด้วยมาตรการป้องปัน โดยได้ให้ความรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ รวมทั้งจะอบรม พนักงาน เกษตรกร และผู้เกี่ยวข้อง จัดทำและแจกจ่ายเอกสารแผ่นพับ ด้านการศึกษาวิจัย ได้มีการสำรวจและติดตามพื้นที่เกิดโรค ศึกษาหาเชื้อสาเหตุ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มาตรการเผชิญเหตุและการยับยั้งเชื้อและมาตรการแก้ไขหรือฟื้นฟู ได้มีการปรับปรุงพันธุ์ยางพาราต้านทานโรคใบร่วงชนิดใหม่อีกด้วย
ภาพ/ข่าว อับดุลหาดี เจ๊ะยอ จ.ยะลา