สุรินทร์ นักท่องเที่ยวแห่ชม ทุ่งทานตะวัน โคกตาบันตะวันยิ้ม รับลมหนาว

สุรินทร์ นักท่องเที่ยวแห่ชม ทุ่งทานตะวัน โคกตาบันตะวันยิ้ม รับลมหนาว ถ่ายรูปกับหุ่นฟางสัตว์หลายชนิด พร้อมซื้อสินค้าผู้ต้องขัง กำลังพัฒนาให้เป็นแห่ลงท่อเที่ยวแห่งใหม่ใกล้ตัวเมือง หวังให้เป็นที่จำหน่ายสินค้าผู้ต้องขัง ได้มีกำลังใจก่อนปล่อยตัว

วันที่ (31 มกราคม 2564) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานถึงบรรยากาศที่ทุ่งทานตะวัน ชื่อ ”โคกตาบัน ตะวันยิ้ม” ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน สังกัดเรือนจำกลางสุรินทร์ และกำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชาวสุรินทร์ โดยที่นี่ มีการปลูกดอกทานตะวันไว้ในพื้นที่กว่า 6 ไร่ และกำลังเบ่งบานรอรับนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวนี้ ภายในทุ่งทานตะวัน มีสะพานไม้ ให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้เดินชมและลงไปถ่ายรูปกับดอกทานตะวันได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีหุ่นฟางเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูป อาทิ รูปช้าง ปลา กระต่าย ดอกไม้ ควายและแพะ ซึ่งเป็นฝีมือผู้ต้องขัง มีการ จำหน่าย กาแฟ เบเกอรี่ ขนมชนิดต่างๆ พันธุ์ไม้ต่างๆ ให้อาหารกระต่าย แพะและควาย รวมทั้งผลิตภัณฑ์งานไม้ จากการฝึกวิชาชีพของผู้ต้องขัง เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชม เป็นจุดเช็คอิน ถ่ายรูป และรับบริการ ซึ่งช่วงนี้ดอกทานตะวันกำลังเบ่งบาน นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจของจังหวัดสุรินทร์อีกแห่ง ผู้สนใจ สามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงค่ำๆโดยจะมีไฟสปอร์ตไลท์เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย โดยพบว่าวันนี้ซึ่งเป็นวันหยุดวันอาทิตย์ พบว่ามีประชาชนนักท่องเที่ยวพาครอบครัวเดินทางมาชมและบันทึกภาพกันอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน พร้อมยังมีมาตรการคัดกรองโควิด 19 อีกด้วย

นายจำรูญ ทำทอง ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง เรือนจำกลางสุรินทร์ กล่าวว่า ทุ่งทานตะวันแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และข้าราชการ เจ้าหน้าที่เรือนจำกลาง สุรินทร์ ได้นำผู้ต้องขังมาปรับปรุงที่นาตรงนี้ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวผักผ่อนหย่อนใจของพี่น้องชาว จ.สุรินทร์

นอกจากทุ่งทานตะวันแล้ว ยังมีฝีมือผู้ต้องขัง อาทิ กาแฟ ขนม เครื่องไม้เครื่องเรือน รั้วคาวบอย ต่างๆและที่สำคัญคือหุ่นฟาง ที่ใช้หุ่นฟางจากที่นาตรงนี้มาทำ หลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ สำหรับพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของเรือนจำ มีพื้นที่ 800-900 ไร่ ปกติก็ทำนา ปลูกพืชผักบ้าง หลังจากนี้ถ้าดอกไม้ทานตะวันแห้งตายไป ก็จะมีปรับปรุงต่อเนื่องรุ่นที่ 2 ในการปลูกดอกไม้ชนิดอื่นต่อ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ชาวสุรินทร์ไม่ต้องเดินทางไกล และนักท่องเที่ยวยังได้อุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้า เป็นกำลังใจให้กับผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลควบคุม ที่เราคาดว่าผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไป จะได้มีอาชีพติดตัว ไม่ให้กลับมากระทำผิดซ้ำอีก

คนที่จะถูกปล่อยตัวออกไป จะต้องได้รับการอบรม โครงการโคกหนองนาแห่งน้ำใจ และความหวังก่อน เกษตรอินทรีย์ พืชผัก ต่อยอดเกษตรทฤษฎีใหม่ คือเกษตรพอเพียงตามรอยพ่อหลวง ร.9 เป็นโครงการครู พาทำ ซึ่งจะอบรมรุ่นที่ 3 ในวันพรุ่งนี้อีก 400 คน ทุ่งทานตะวันเราเปิดทุกวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ เรามีสปอร์ตไลท์เปิดส่องสว่างให้นักท่องเที่ยวไปจนถึง เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งเราเปิดมา ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีประชาชนนักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษา เข้ามาชมอย่างต่อเนื่อง