พ่อพาลูกสาววัย 18 ปี ร้องทนายรณรงค์ หลังถูกสมาชิกสภาเทศบาลชื่อดัง พร้อมกับพวกนับสิบรุมโทรม แล้วคดีไม่คืบ แถมเจรจาให้เงิน 400,000 บาท เพื่อปิดคดี
1 min readเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 2 ก.พ.64 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายทองแดง สีมันตะ อายุ 63 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 2 หมู่บ้านดีรัง ต.ดีรัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พาลูกสาวเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประะธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามคดีที่ลูกสาวถูกคนในหมู่บ้านเดียวกัน 11 คน ลวงไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า เพราะหนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็นถึง สท.เทศบาลในพื้นที่
นายทองแดง พ่อผู้เสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวตนเองคือ น.ส.เอ ถูกนายโจ๊ะ หัวโจกออกอุบายลวงไปข่มขืนเมื่อเดือนกันยายน 63 เมื่อถึงกระท่อมได้โทรตามเพื่อนมาอีก 3 คน รวม 4 คน ก่อนใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ทุกคน แล้วถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเดือนตุลาคมนายโจ๊ะ หัวโจกได้ข่มขู่ น.ส.เอ และสั่งให้มาพบที่กระท่อมจุดเดิม จากนั้นได้โทรเรียกเพื่อนอีก 6 คน รวมเป็น 7 คน หนึ่งในนั้นมีนายพนม ปีจตุรัส อายุ 52 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลดีรั ร่วมข่มขืนลูกสาวด้วย ตนเองจึงพาบุตรสาวเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นิพนธ์ ศรีไพบูลย์ สว. (สอบสวน)สภ.พัฒนานิคม เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้ง 11 คน จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 10 คน มีเพียงนายพนม สท.ดีรัง ที่ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตนเกรงว่าคดีจะเงียบหาย เพราะผู้ก่อเหตุเป็นถึง สท.ในพิ้นที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด และทุกคนได้รับการประกันตัวออกมา
“หลังจากนั้นกลุ่มผู้เสียหายได้มาเจรจาเสนอให้เงินตนเอง 400,000 บาท และให้บอกว่าเป็นเรื่องสมยอมกันเอง รวมทั้งให้ถอนแจ้งความ แต่ตนไม่รับ เพราะมันไม่สามารถล้มล้างตราปาบที่ให้ไว้กับลูกสาวตนเอง มีภรรยาผู้ต้องหาบางคนเสนอตัวขอนอนกับตนเองแลกกับการไม่ดำเนินคดีสามีของเขา ซึ่งเป็นเริ่องที่ตนเองรับไม่ได้ และไม่คิดว่าเขาจะกล้าเสนอเงื่อนไขแบบนี้”
ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้ตนเองจะพาผู้เสียหายไปร้องตำรวจ ปคม.ในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น. เพื่อให้เข้ามาช่วยตามคดี เพราะผู้เสียหายไม่มั่นตำรวจท้องที่ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นถึง สท. คดีนี้มีอัตราโทษสูง คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ เพราะผู้เสียหายยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน ผู้สื่อข่าวนนทบุรี