อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

สอท.ทลายขบวนการแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ

1 min read

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ก.พ.64 ที่ห้องประชุม บช.สอท. เมืองทองธานี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนายลีโอนาร์ด แมนคูโซ ผู้ช่วยทูตประจำประเทศไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวกรณีการจับกุมขบวนการแก๊งอุ้มบุญข้ามชาติ พบการทำธุรกรรมทางการเงินกว่า 90 ล้านบาท

ตามที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้รับการประสานงานจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กรณีพบการใช้ช่องทางทางสื่อสังคมออนไลน์ ประกาศเชิญชวนรับสมัครหญิงที่ต้องการหารายได้จากการรับจ้างตั้งครรภ์แทน จึงได้ประสานความร่วมมือกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข
สถานทูตประเทศสหรัฐอเมริกา

จากการสืบสวนพบว่ามีเด็กทารก อายุประมาณ 4 เดือน เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีด้วยภาวะชักเกร็ง และมีเลือดออกในสมอง แพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากการได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จากการสอบสวนปากคำมารดาของทารกดังกล่าว ได้ความว่าตนได้รับจ้างตั้งครรภ์แทนโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (การอุ้มบุญ) และรอการส่งมอบเด็กให้ผู้ว่าจ้าง โดยจะมีนายหน้าชาวต่างชาติเป็นผู้ว่าจ้างและออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด โดยมารดาผู้รับตั้งครรภ์แทนจะต้องเดินทางไปที่ประเทศกัมพูชาเพื่อไปฝังตัวอ่อนทารก จากนั้นจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย จนกระทั่งเมื่อถึงกำหนดคลอดทารก ผู้ว่าจ้างจะสั่งให้มารดาผู้รับตั้งครรภ์เดินทางไปยังประเทศที่สามเพื่อทำการคลอดทารกยังสถานพยาบาลที่ผู้ว่าจ้าง และทำการส่งมอบทารกในคราวเดียวกัน

เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มารดาที่รับตั้งครรภ์แทนไม่สามารถเดินทางออกไปคลอดนอกประเทศได้ จึงจำเป็นที่จะต้องคลอดในสถานพยาบาลในประเทศไทยแทน และทำการส่งมอบทารกให้นายจ้าง จากนั้นนายจ้างชาวต่างชาติจะมอบค่าตอบแทนให้ 500,000 บาท ถือเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการรับจ้างตั้งครรภ์แทน

เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานตามข้อมูลดังกล่าวและติดตามกลุ่มชาวต่างชาติที่ว่าจ้างหญิงไทยที่รับตั้งครรภ์คนดังกล่าว จนทราบว่า กลุ่มชาวต่างชาติที่เป็นนายหน้าจัดหาเด็กทารกนั้นได้เปิด สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ชื่อว่า “ GS กิ๊ก บริการศูนย์แม่บ้าน ” มีการรับเลี้ยงดูแลเด็กทารกจริง และมีเด็กทารกอยู่ในความดูแล จำนวน 2 คน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นทารกที่เกิดจาก “ ขบวนการอุ้มบุญ ” ลักษณะเดียวกันกับมารดาผู้รับจ้างตั้งครรภ์ ตามที่ตรวจสอบพบจากนั้นได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มหญิงไทยที่ได้รับจ้างตั้งครรภ์แทนและเดินออกนอกประเทศเพื่อฝังตัวอ่อนในลักษณะเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง

จากการปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทั้ง 9 จุด ในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถช่วยเหลือเหยื่อเป็นเด็กได้ จำนวน 2 ราย อายุประมาณ 6 เดือน และอายุประมาณ 8 เดือน และตรวจพบผู้ดูแลเหยื่อเป็นบุคคลสัญชาติฟิลิปปินส์ จำนวน 2 รายซึ่งสถานที่ตรวจพบเปิดเป็นบริษัททำความสะอาดบังหน้า โดยใช้ชื่อหญิงชาวจีน พบผู้หญิงที่ยอมรับว่าเป็นผู้ที่อุ้มบุญ จำนวน 3 ราย นอกจากนี้ยังตรวจพบผลแล็บจากสถาบันเอกชนยืนยันว่า DNA ของพ่อเด็กเป็นสัญชาติจีน ซึ่งขั้นตอนอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสืบสวนขยายผลต่อไป

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มาตรา 24 ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท มาตรา 27 กระทำการเป็นคนกลางหรือนายหน้าโดยเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเพื่อเป็นการตอบแทนในการจัดการหรือชี้ช่องให้มีการตั้งครรภ์แทน โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท รวมถึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556

ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน ผู้สื่อข่าวนนทบุรี

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.