ประมงสมุทรสาครกว่า 500 คน ยื่นหนังสือถึงนายกฯ เรียกร้องแก้ปัญหายืดเยื้อนาน 5 ปี
1 min readเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 06 ธันวาคม 2562 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหารสมาคม สมาชิกสมาคมการประมงสมุทรสาคร พี่น้องชาวประมงทุกประเภท และตัวแทนผู้ที่ทำธุรกิจกับอาชีพที่ต่อเนื่องประมงรวมกว่า 500 คน ได้มารวมตัวยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยผ่านทางนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นการยื่นหนังสือพร้อมกันทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดทุกแห่ง
นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่พี่น้องชาวประมงสมุทรสาครและพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศ ได้ยื่นให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนั้น เป็นไปตามที่สมาชิกชาวประมงต้องการให้มีการขับเคลื่อน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงที่ยืดเยื้อมานาน 4 – 5 ปี ซึ่งมีทั้งหมด 11 ข้อ ประกอบไปด้วย 1 ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการประมงทั้งหมดหยุคออกกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวประมงมาเพิ่มเติมขึ้นอีก(ยกเว้นการออกกฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งที่ผ่อนคลายปัญหาให้กับชาวประมง),2. ขอให้มีการเสนอแก้ไขกฎหมายพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยเร่งด่วนในช่วงที่มีการประชุมสภานิติบัญญัตินี้,3. ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการการซื้อเรือประมงออกนอกระบบคืนโดยเร็ว โดยขอให้รัฐบาลมีการตั้งงบประมาณจำนวน 1 หมื่นล้าน ในปีงบประมาณ 2563ในการที่จะนำเรือประมงออกนอกระบบ,4.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดการช่วยเหลือชาวประมง ในโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับชาวประมงโดยเร่งด่วน ภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้,5.ขอให้กรมประมง กรมจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการอนุญาตให้ใช้กฎหมายมาตรา 83 แห่ง พรก.การประมง พ.ศ. 2558 ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมง โดยเร่งด่วนภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้ ,1.6 ขอให้ยกเลิก แก้ไข กฎ ระเบียบต่างๆ ที่เป็นปัญหาในทางปฏิบัติของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่ส่งผลกระทบกับชาวประมงที่เป็นอยู่โดยเร็ว, 7. เรือประมงที่มีขนาดไม่เกิน 30 ตันกรอส ไม่ควรมีนโยบายให้ติดVMS เช่น การชักชวนให้เรือประมงขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ทดลองติด VMS ฟรี,8. ขอให้หยุดการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศโดยทันที ด้วยเหตุผลไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามพระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 มาตรา 92 ซึ่งการนำเข้าสัตว์น้ำจะต้องมีการตรวจสอบว่า สัตว์น้ำเหล่านั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตามมาตรา 92 วรรคสองและวรรคสาม สินค้าประมงจากต่างประเทศ จึงเข้ามาถล่มตลาดสินค้าสัตว์น้ำของชาวประมงไทยที่ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้ต้นทุนสูงกว่า ราคาจึงตกต่ำ เพราะมีการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำแบบเสรี ไร้การควบคุม มาสต๊อกไว้เต็มห้องเย็นหมดแล้ว ดังนั้นจึงต้องแก้ไขระเบียบกรมประมงเดิมที่อนุญาตให้บุคคลธรรมดา สามารถนำเข้าสัตว์น้ำได้เสรี มีมาตรการปกป้องสินค้าสัตว์น้ำภายในประเทศ ,9.ขอให้พิจารณาเพิ่มวันทำการประมงให้กับพี่น้องชาวประมงทั้งประเทศโดยเร่งด่วน เพราะทำให้เกิดปัญหาการประกอบอาชีพขาดทุนมา 4-5 ปีแล้ว เนื่องจากมีการกำหนดให้ทำการประมงได้ไม่ทั้งปี แต่ต้องมีรายจ่ายค่าจ้างแรงงานตลอดทั้งปี,10. ขอให้คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร ทบทวนแนวทางที่จะบังคับให้บริษัทจำหน่ายน้ำมันบังคับให้ชาวประมง ต้องจ่ายเงินผ่านบัตรฟรีทการ์ด (Fleet Card) ซึ่งจะทำให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประมงเพิ่มขึ้นทันที และ 11. ขอให้มีการทบทวนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวชาวประมงกรณีที่ถูกบังคับใช้จากกฎหมายประมงที่ไม่เป็นธรรม โดยการตั้งคณะกรรมการพิจารณาผู้ได้รับผลกระทบ
นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร กล่าวอีกว่า หลังจากวันนี้แล้ว หากไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องข้างต้นจนเป็นที่น่าพอใจต่อพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ก็จะมีการยกระดับการร่วมชุมนุมไปส่วนกลางที่ทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป ตามระยะเวลาที่พี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัดเห็นชอบ ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้
ด้านนายศาวงษ์ จุ้ยเจริญ อุปนายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร ในฐานะผู้ประกอบการเรือประมง ก็บอกว่า 4 – 5 ปีที่ผ่านมานี้ พี่น้องชาวประมงสุดจะทนกับการออกกฎหมาย และการแก้ปัญหาที่ไม่เป็นรูปธรรมของรัฐบาล ส่งผลทำให้ชาวประมงทั้ง 22 จังหวัดแทบจะหมดสิ้นไปจากผืนทะเลไทยแล้ว ครั้งนี้จึงจะเป็นครั้งสุดท้ายในการยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ปัญหาที่ยืดเยื้อมานานหลายปีให้แก่พี่น้องชาวประมง เพื่อให้ได้กลับมาลืมตาอ้าปากหรือมีลมหายใจได้อีกครั้ง ทุกคนจะสู้เพื่อชัยชนะ ซึ่งหากรัฐบาลเห็นความสำคัญของพี่น้องชาวประมงจริง ก็จะต้องทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 11 ข้อ และเมื่อรัฐบาลทำให้พี่น้องชาวประมงแล้ว หลังจากนั้นหากชาวประมงคนไหนไม่สามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ก็ต้องหยุดไปเองไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรได้อีก แต่ในทางตรงกันข้ามหากวันนี้รัฐบาลยังเมินเฉยไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องนั้น ทางพี่น้องชาวประมงไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ก็จะไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ แล้วต่อไปก็จะเข้าสู่การจอดเรือ ปิดอ่าว หยุดการค้าขายทั้งเรือประมงและประมงต่อเนื่อง เพราะผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับที่พี่น้องชาวประมงเท่านั้น แต่จะเกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่ถึงทุกอาชีพที่เกี่ยวกับการทำประมงทุกประเภทด้วย
ขณะที่นายสมพงษ์ จิระพรพงศ์ ประธานชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร ก็บอกว่า จากปัญหาของพี่น้องชาวประมงที่ได้รับอยู่ในขณะนี้ ก็ส่งผลกระทบถึงร้านอาหารในจังหวัดสมุทรสาครไปด้วย เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารที่มีวัตถุดิบเป็นอาหารทะเล ถ้าประมงไปไม่รอด ร้านอาหารทะเลในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอื่นๆ ที่ใช้วัตถุดิบจากพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ก็ต้องหยุดไปด้วยเช่นเดียวกัน และคงไม่ใช่แค่ร้านอาหารทะเลเท่านั้น แต่รวมไปถึงกิจการทุกประเภทที่เกี่ยวเนื่องกับการประมง ตลอดจนผู้ใช้แรงงานอีกด้วย ทั้งนี้หากพี่น้องชาวประมงเดินหน้าไปทางไหน ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับประมงต่อเนื่องก็จะเดินตามไปด้วยกัน เพื่อช่วยให้วิกฤติในครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ส่วนทางด้านของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ลงมารับหนังสือจากนายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร และตัวแทนพี่น้องชาวประมงสมุทรสาครกว่า 500 คนนั้น ก็บอกว่า อาชีพประมงเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อจังหวัดสมุทรสาครเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดสมุทรสาคร เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย อีกทั้งยังส่งเสริมในเรื่องของ Hub of Seafood “ครัวโลก” ซึ่งหากวันนี้อาชีพประมงหายไปจากสมุทรสาครหรือท้องทะเลไทย ก็จะทำให้ธุรกิจ และอาชีพหลายๆ อย่างที่เกี่ยวเนื่องกับประมงนั้นสูญหายไปด้วย ดังนั้นก็เชื่อได้ว่ารัฐบาลจะเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมงอย่างแน่นอน โดยหนังสือร้องเรียนนี้ก็จะรีบนำส่งไปยังนายกรัฐมนตรีตามความประสงค์ของพี่น้องชาวประมงอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พี่น้องชาวประมงทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปโดยสงบ