วินาทีบุกจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้คาเครื่องเลื่อย (มีคลิป)

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 19 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 49 อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นธ.1 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นธ.3, เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส ได้ร่วมเข้าตรวจสอบบริเวณเทือกเขาเมาะแต ซึ่งอยู่ด้านหลังหมู่บ้านไอร์กือเน๊าะ ม.5 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร พบนายอาวีกี บือซา อายุ 30 ปี กำลังใช้เครื่องเลื่อยโซ่เลื่อยยนต์แปรรูปไม้อยู่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวเพื่อจับกุม และตรวจยึดไม้แปรรูป จำนวน 11 แผ่น พร้อมเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆอีกจำนวนหนึ่ง และได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหา ลักลอบตัดไม้แปรรูปไม้

ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการลักลอบแปรรูปไม้ อีกจำนวน 2 จุด พร้อมทั้งได้ทำการจับกุมตัว นายสุหดี สนิ อายุ 42 ปี ที่บ้านเลขที่ 140 หมู่ที่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และ นายหนิอาซือรี หนิแมน อายุ 37 ปี ที่บ้านเลขที่ 31/1 ม.6 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ซื้อไม้ต่อมาจากนายอาวีกี เพื่อนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ วงกบประตูหน้าต่างออกขายชาวบ้านตามที่ต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ขยายผลตรวจยึดของกลางจากทั้ง 2 ราย ได้จำนวนหลายรายการดังนี้

โดยตรวจยึดของกลางจากนายสุหดี ได้ไม้ตะเคียนชันตาแมวแปรรูป จำนวน 120 แผ่นชิ้น และตรวจยึดเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 3 เครื่อง พร้อมแผ่นเหล็กบังคับโซ่และโซ่ เครื่องมือในการแปรรูปไม้พร้อมอุปกรณ์จำนวน 12 รายการ ตรวจยึดของกลางจากนายหนิอาซือรี เป็นไม้ตะเคียนชันตาแมวไม้แปรรูป จำนวน 10 รายการ และเครื่องมือในการแปรรูปไม้ ใสไม้ เจาะไม้ อีกจำนวน 14 รายการ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อกล่าวหา บุคคลทั้ง 2 ราย ดำเนินคดีในข้อหา ความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545

สำหรับการเข้าตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ เป็นไปตามการสั่งการของ พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พบว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเป็นจำนวนมาก และมีการเคลื่อนย้ายไม้หวงห้าม ไม้ท่อน ไม้ซุงและไม้แปรรูป ส่งออกจำหน่ายทั้งภายในและภายนอกเขตพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิด พรบ.ป่าไม้ มีการแผ้วถางป่าสงวนเพื่อการเกษตร หรือนำไม้ออกจากเขตป่าสงวนโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งไปได้ที่ ศูนย์สายด่วนพิทักษ์ป่า หมายเลขโทรศัพท์ 1362 หรือ สายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 เพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการเข้าตรวจสอบต่อไป

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ