“แรมโบ้” ยืนยัน แจ้งความดำเนินคดีกับ “อมรัตน์” ทำถูกต้องแล้ว ซัดกลับหัวเราะในสภาฯระหว่างนายกฯชี้แจง
1 min read“แรมโบ้” ยืนยัน แจ้งความดำเนินคดีกับ “อมรัตน์” ทำถูกต้องแล้ว ซัดกลับหัวเราะในสภาฯระหว่างนายกฯชี้แจง อาจเพราะติดนิสัยหลบหลังม็อบ 3 นิ้วมา ทั้งนี้หากทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาฯไม่ได้ขอให้ลาออกไป อย่าอยู่กินเงินภาษีของประชาชนเลย
19 กุมภาพันธ์ 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเข้าแจ้งความดำเนินคดีในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กับนางสาวอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยืนยันไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร แต่นางสาวอมรัตน์ มีพฤติกรรมที่มีความผิดและเข้าข่ายในการทำผิดกฎหมาย จึงต้องเข้าแจ้งความเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ส่วนพฤติกรรมนางสาวอมรรัตน์ ในสภาฯระหว่างที่นายกฯชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวานนี้ ตนเองมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไร้มารยาทที่มานั่งหัวเราะเสียงดังในสภาฯ ซึ่งหากไม่สนใจที่จะอภิปรายฯหรือฟังบุคคลอื่นในการชี้แจง อยากจะพูดคุยหัวเราะเสียงดังก็ขอให้ออกจากห้องประชุมสภาฯไป หรือไม่ขออย่าอยากที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกเลยเพราะไม่เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ยังจะทำให้มองได้ว่าพฤติกรรมแบบนี้ของนางสาวอมรัตน์ และ ส.ส. ก้าวไกล อยากใช้เวทีนี้เพื่อตำหนิ หรือด่าทอ เหน็บแหนมคนอื่นมากกว่าที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจให้อยู่ในประเด็น
นายสุภรณ์ยังระบุว่าเข้าใจว่าที่นางสาวอมรัตน์มีพฤติกรรมเช่นนี้ ก็อาจเป็นเพราะชอบอยู่กับม็อบ 3 นิ้วที่ชอบพูดจาหยาบคาย ไม่มีวุฒิภาวะหรือเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่อายุมากแล้ว อีกทั้งยังมองว่าหากนางสาวอมรรัตน์แค่ทำหน้าที่ ส.ส. ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนเองได้ไม่สมบูรณ์ ไม่ช่วยเหลือประชาชน ก็ขอให้ลาออกไปแล้วไปอยู่กับกลุ่มม็อบเลยจะดีกว่า อย่ามากินเงินภาษีของประชาชนอีกเลย
“นางสาวอมรัตน์ ไม่ให้เกียรตินายกฯ รัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งประธานสภาฯนายชวน หลีกภัยเลย จนนายชวนต้องออกมาพูดว่า คุมความสงบเรียบร้อยทำได้ แต่คุมมารยาทเป็นเรื่องที่ยาก นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพฤติกรรมและมารยาทของนางสาวอมรัตน์เป็นเช่นไร
ทั้งนี้ตนเองยังมองว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ต้องไปพาดพิงนายกฯ ในการแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวอมรัตน์ เพราะนายกฯไม่ได้เป็นผู้สั่งการเรื่องนี้ แต่ตนเองในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมวอร์รูมของรัฐบาล ได้คุยกับทีมกฎหมายแล้วจึงดำเนินการเองและมองว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรม ส.ส.คนนี้ที่ทั้งไร้มารยาท หยาบคาย ดูหมิ่นคนอื่น จาบจ้วงสถาบัน ซึ่งนายพิธาก็รู้อยู่แก่ใจ และเรื่องนี้ตนเองก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้วย เพราะคนแบบนี้ไม่สมควรให้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติในสภาฯ และจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้กับคนอื่นอีกต่อไป
“ไปตามดูเฟสของสส.คนนี้ได้ว่าหลังการอภิปรายและก่อนการอภิปรายมีพฤติกรรมก้าวล่วงจาบจ้วงอย่างไร มีพฤติกรรมให้การสนับสนุนสมคบร่วมคิดให้คนออกมาชุมนุมก้าวล่วงจาบจ้วงทำผิดกฎหมายมาตรา 112 ตลอดมา คงอยากเดินเข้าคุกไปอยู่กับแกนนำม็อบที่เจ้าตัวสนับสนุนอยู่ ตนยืนยันไม่มีใครไปกลั่นแกล้งนางสาวอมรัตน์ทั้งสิ้นแต่เป็นเพราะปากและสมองที่คิดร้ายต่อสถาบันมากกว่า ” เมื่อไม่เลือกเส้นทางเข้าสู่สภาอันทรงเกียรติ แต่จะเลือกเส้นทางไปกินข้าวแดงในคุก ก็คงไม่มีใครห้ามและช่วยนางสาวอมรัตน์ได้” นายสุภรณ์กล่าว