ผอ.รร.อนุบาลบ้านเด็กตั้งโต๊ะแถลงทั้งน้ำตา โต้ข่าวทางโซเชียล หลังโพสต์อ้าง รร.ไม่ ใส่ใจและแสดงความรับผิดชอบกรณีเด็กล้มศีรษะยุบสลบหามส่งรพ.
1 min readวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ผอ.รร.อนุบาลบ้านเด็กตั้งโต๊ะแถลงทั้งน้ำตา โต้ข่าวทางโซเชียล หลังโพสต์อ้าง รร.ไม่ ใส่ใจและแสดงความรับผิดชอบกรณีเด็กล้มศีรษะยุบสลบหามส่งรพ.ว่าบิดเบือนข้อมูล หลังทราบเรื่องทาง รร.สอบถาม ดูแล เยี่ยมเยียน พร้อมเยียวยา ไม่เคยละทิ้ง ในขณะที่ครูพี่เลี้ยง เผยก่อนหน้าเด็กมีอาการป่วยเพิ่งออกจาก รพ. ซึ่งตนก็ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด
เวลา 10.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ที่โรงเรียนอนุบาลบ้านเด็ก ตำบลคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง นางอุบล สงเนียม ผอ.โรงเรียน พร้อมด้วยนายก้าวหน้า สงเนียม รองผู้อำนวยการ และนางวิลาศ หนูยก ครูพี่เลี้ยงเด็ก ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังปรากฏข้อความทางโพสต์ข่าวของสื่อบางสำนักในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ระบุว่า “พ่อแม่ใจสลาย ส่งลูกชายวัย 3 ขวบไปโรงเรียนอนุบาลเด็ก ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุงไปรับลูกตอนเย็นได้รับบาดเจ็บศีรษะยุบตั้งแต่ช่วงบ่าย แต่ครูพี่เลี้ยงรวมถึงผู้ประกอบการไม่ยอมส่งถึงมือหมอจนถึงเย็นผู้ปกครองไปรับพบลูกสลบต้องหามส่งโรงพยาบาลเอง อนิจจาโรงเรียนอนุบาลดัง ไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบไร้มาตรการความปลอดภัย บ่ายเบี่ยงจนผู้ปกครองแจ้งความ เหตุเกิดเมื่อ 18 กมภาพันธ์” ว่า ข้อความดังกล่าว บิดเบือนข้อเท็จจริง ทางโรงเรียนดูแลและเอาใจใส่เด็กนักเรียนโดยไม่ได้ละเลย มาตลอดระยะเวลากว่าที่ 20 ปี ที่เปิดโรงเรียนมา การดูแลเด็กถือเป็นหัวใจหลักของทางโรงเรียนอนุบาลยิ่งกว่าเรื่องวิชาการ
นางอุบลฯ กล่าวทั้งน้ำตาว่ารู้สึกเสียใจกับการโพสต์ข่าวของสื่อบางสำนัก ที่บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมยอมรับเด็กล้มในห้องเรียนจริง แต่ไม่ได้ศีรษะยุบ ตามที่เป็นข่าว โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ตนทราบเรื่องจากครูพี่เลี้ยงในตอนเย็นว่าเด็กล้มในห้องศีรษะไปกระทบพื้นจนศีรษะโน ทางครูพี่เลี้ยงได้ทาน้ำมันนวดให้เด็ก และได้สังเกตอาการเด็ก ก็ยังคงเล่นกับเพื่อนตามปกติ จึงไม่ได้โทรบอกผู้ปกครอง และไม่ได้แจ้งตนให้รับทราบ ยอมรับว่าทาง โรงเรียนมีความผิดพลาดในจุดนี้ แต่เนื่องจากเห็นเด็กยังอยู่ในอาการปกติ เล่นกับเพื่อนในห้องเรียนได้ จนกระทั่งเลิกเรียนตอน 4 โมงเย็น ครูพี่เลี้ยงได้จูงเด็กไปส่ง ผู้ปกครองที่ด้านหน้า รร.พร้อมแจ้งให้ผู้ปกครองหลังจากนั้นตนมาทราบว่า ผู้ปกครองพาเด็กไปตรวจที่ รพ.ปิยะรักษ์ เพื่อเอกซเรย์สมอง แต่ที่ รพ.ปิยะรักษ์ไม่มีเครื่องมือ จึงแนะนำให้ไห โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ที่จังหวัดตรัง แต่ด้วยความวิตกกังวลและความห่วงใยของผู้ปกครองทำให้พาเด็กเข้า รพ.พัทลุง และในระหว่างที่หมอรับการรักษา เด็กเกิดอาการช็อค ซึ่งน่าจะเพราะอาการไข้ที่มีอยู่ก่อนหน้า บวกกับเด็กจะมีประวัติประจำตัวคือจะชักเกร็งเวลามีไข้สูง หมอ และพยาบาลได้ช่วยเหลือจนเด็กพ้นขีดอันตราย
นางอุบลฯ บอกว่า ขณะที่ เด็ก อยู่ รพ.พัทลุง ทางโรงเรียนได้เข้าไปเยี่ยมเยียนเด็ก ทั้ง พูดคุยถามไถ่กับผู้ปกครองโดยตลอด ไม่ได้ละทิ้งหรือแสดงการละเลยเด็ก ทั้งยังแสดงความรับผิดชอบโดยการมอบเงินก้อนหนึ่งเป็นน้ำใจให้ผู้ปกครองใช้ดูแลเด็กในช่วงที่อยู่ รพ พัทลุง ล่าสุด เมื่อวันที่ ( 20 กุมภาพันธ์ )หมออนุญาตให้เด็ก ออกจาก รพ. เนื่องจากเด็กมีอาการดีขึ้นหลังจากนั้นก็ ปรากฏข้อความทางโพสต์ของสื่อบางสำนัก จนทำให้ทาง รร.เกิดความเสียหาย