สุรินทร์ คนแห่รับเหรียญเกจิดัง หลวงปู่เฮง รุ่นเฮงทรัพย์แสนล้าน แจก 1 หมื่นองค์เป็นมงคลแก่ลูกหลานส่งท้ายปี หลังพุทธาภิเษก จัดสร้างสายบุญรุ่นใหม่ โก๋ สุรินทร์
1 min readวันที่(7 ธ.ค.62)ที่วัดพัฒนาธรรมฆาราม (บ้านด่านช่องจอม) ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีมหาพุทธาภิเษก สุดยอดมหาสุดยอดวัตถุมงคล เหรียญหล่อฉลุรุ่นแรก และเหรียญโลหะรุ่นแรก ของหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านช่องจอม (วัดพัฒนาธรรมาราม) สิริอายุ 93 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น”เทพเจ้าแห่งโชคลาภ..ของแดนดินถิ่นอีสานใต้”รุ่นเฮงทรัพย์แสนล้าน เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ให้ลูกหลานได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ส่งท้ายปี 2562 โดยมีพล.อ.นิรุทร เกตุสิริ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี เป็นประธานพิธีฝ่ายฆราวาส มีว่าที่ ร.ต.เอกพงศ์ เข็มทอง หรือโก๋ สุรินทร์ ซึ่งลูกหลานชาวสุรินทร์ สายตรงเป็นผู้จัดสร้าง วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อสมทบทุนร่วมสร้าง วิหารพระพุทธไสยาสน์ และศาลาการเปรียญหลังใหม่ และมอบเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้แก่ลูกหลานในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จำนวน 10,000 เหรียญ เป็นเหรียญปั๊มฉลุ รุ่นเฮงทรัพย์แสนล้าน แก่ผู้ที่มาร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษก ตามเจตน์จำนงของหลวงปู่เฮง โดยมีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
โดยพระเกจิชื่อดังที่พุทธศาสนิกชนเลื่อมไสศรัทธา ร่วมอธิฐานจิต พิธีมหาพุทธาภิเษก จำนวน 9 ท่าน ประกอบด้วย หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านช่องจอม , หลวงตาเยื้อน พระราชวิสุทธิมุนี เขาศาลา จ.สุรินทร์ ,หลวงปู่มหาบุญมี ติสสวโร วัดป่าสันติวัน จ.มหาสารคาม ,หลวงพ่อมนูญชัย มนูญญพโล วัดป่าศรัทธาธรรมวิทย จ.มหาสารครม , หลวงปู่ทองสุข ลทฺธเมโธ วัดหนองฆ้อ จ.ระยอง , หลวงปู่สำลี สุทธจิตโต จ.เลย , หลวงปู่รอด อาภัสสโร จ.สุรินทร์ ,หลวงพ่อหาญ ปัญญาธโร จ.สุรินทร์ , หลวงปู่พวง ธัมมสาโร จ.สุรินทร์
โดยเหรียญที่พุทธาภิเษกในครั้งนี้หลักๆ ประกอบด้วย เนื้อทองคำหลังยันต์ สร้าง 39 เหรียญ ราคาจอง 79,999 บาท ,เหรียญโล่ห์ ชนวนหน้าทองคำ ขอบทองคำ ปี่เซี๊ยะทองคำ ราคาของ 9,500 บาท ,เหรียญโล่เนื้อเงินลงยาแดง 2.2 สร้าง 199 องค์ ราคาจอง 3,200 บาท ,เหรียญหล่อฉลุเนื้อทองคำสร้าง 29 องค์ ราคาจอง 59,999 บาท ,เนื้อน้ำพี้หน้าทองคำสร้าง 39 ราคาจอง 7,500 บาท ,เนื้อน้ำพี้หน้าทองคำสร้าง 39 ราคาจอง 7,500 บาท เป็นต้น
และหลังจากทำพิธีพุทธาพิเษกแล้ว ก็ได้มีการแจกเหรียญแบบปั้มฉลุ รุ่นเฮงทรัพย์แสนล้าน จำนวน 1 หมื่นองค์ ให้กับผู้เข้าร่วมพิธี มีบรรดาลูกศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่เฮง ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา มารับกันแน่นมณฑลพิธี ซึ่งแต่ละคนต่างมารอตั้งแต่เช้า เพื่อจะมารับเหรียญแจกเพื่อความเป็นสิริมงคลส่งท้ายปี
โก๋ สุรินทร์ เปิดเผยว่า การจัดสร้างเหรียญหลวงปู่ รุ่นเฮงทรัพย์แสนล้าน ได้รับอนุญาตจากหลวงปู่ให้จัดสร้างขึ้น 2 พิมพ์ วัตุถประสงค์เพื่อร่วมบุญสร้างวิหารหลวงพ่อพระใหญ่พุทธไสยาสน์ต้องใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท วัดบ้านด่านช่องจอม และศาลาการเปรียญที่กำลังก่อสร้างอยู่น่าจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ด้วยวัดยังขาดปัจจัย หลวงปู่ท่านเลยเมตตาอนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น เพื่อจะได้รับสร้างศาสนสถานของวัด รุ่นนี้มี 2 รูปแบบคือ แบบเหรียญโล่ ความหมายคือป้องกันภัยอันตรายต่างๆและปกป้องคุ้มครอง ซึ่งได้สร้างขึ้นเป็นรุ่นแรก แบบที่ 2 เป็นแบบฉลุ ลักษณะเหมือนฉลุแห่งปัญญา และก็เป็นรุ่นแรกเช่นกัน ยืนยันการจัดสร้างในครั้งนี้ได้รับอนุญาตจากหลวงปู่และคณะกรรมการวัด เหรียญที่สร้างทั้ง 2 แบบ มีจำนวนประมาณ 13,000 เท่านั้น และทำเหรียญแจกในวันพุทธาพิเษก 10,000 เหรียญ ถวายวัดอีก 2,000 เหรียญ สำหรับผู้ที่สนใจจองสามารถติดตามได้ทางเพจชื่อว่า เฮงทรัพย์แสนล้าน หลวงปู่เฮงปภาโส จ.สุรินทร์ (ทุกรุ่น) By โก๋ ชัดเจน หรือที่เบอร์โทร 093-0932784 , 061-0703559
สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านช่องจอม (วัดพัฒนาธรรมาราม) สิริอายุ 92 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น”เทพเจ้าแห่งโชคลาภ..ของแดนดินถิ่นอีสานใต้” วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือ ทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย
พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้
ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์