นนทบุรี ผบช.ภาค1 คุมตัวภรรยาและหลานชาย ฆ่าตัดศรีษะทิ้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
1 min readผบช.ภาค1 คุมตัวภรรยาและหลานชาย ฆ่าตัดศรีษะทิ้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปยังบ้านเกิดเหตุ ในซอยกาหลง 5 อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มี.ค.64 พล.ต.ท.อำพร บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รองผบช. พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผบก. พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รองผกก. พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส. ร่วมกับ พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนตรศรีอยุธยา และชุดสืบสวน ควบคุมตัวนางวาสนา เข็มทอง ภรรยา นายสุบินเกตุหิรัญ อายุ 53 ปี ที่ถูกนางวาสนาและหลานชายคือนายร่วมกันฆ่าหั่นศพ ก่อนนำชิ้นส่วนกระจายไปทิ้งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยจุดเกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 18 ซอยกาหลง 5 ถนนสนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายสุบินที่อยู่กินกับนางวาสนา จนมีลูกด้วยกันสองคน ซึ่งหลังจากฆ่าสามีแล้วนางวาสนากับหลานชายได้ออกไปซื้อน้ำมันที่ปั๊มใกล้บ้าน ก่อนกลับมาชำแหละศพนายสุบินใส่ถุงดำ แล้วขับรถไปเผาทำลายหลักฐานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่สุดท้ายกนีไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา โดยนางวาสนารับว่าแค้นใจที่ถูกผู้ตายตบตีทำร้ายเป็นประจำ เลยร่วมมือกับหลานฆ่าสามีดังกล่าว
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนางวาสนา และนายอนัตชัย สองน้าหลานที่ร่วมกันฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วน นำไปเผาและทิ้งไว้ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสาเหตุมาจากที่ผู้ตายมักทำร้ายภรรยาเป็นประจำ นางวาสนาจึงร่วมกับหลานชายก่อเหตุขึ้น โดยบ้านหลังนี้เป็นจุดลงมือ หลังก่อเหตุทั้งสองคนได้ออกไปซื้อถุงดำที่ร้านสะดวกซื้อรวมทั้งซื้อน้ำมันใส่แกลลอนเหลืองเป็นเงิน 140 บาท เพื่อนำร่างผู้ตายไปเผาทำลายหลักฐาน คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนยุ่งยาก เป็นการทำงานของตำรวจหลายฝ่ายที่ร่วมมือกัน
ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน
ผู้สือข่าวนนทบุรี
