ยะลา ฝ่ายประสาน แถลงแจง จับมือเดินหน้าร่วมแก้ไขปัญหา พัฒนา พื้นที่ จชต.
1 min readวันนี้ 4 มีนาคม 2564 พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ ทองสองสี หัวหน้างานกิจการพลเรือน กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ /ผู้ช่วยโฆษก กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนาย ธีรพงษ์ เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ / โฆษกศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมแถลงข่าวชี้แจงผลการปฏิบัติงาน แก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่จังหสัดชายแดนภาคใต้
พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวแถลงถึงผลการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยเฉพาะการควบคุมพื้นที่และการบังคับใช้กฎหมาย ในห้วงที่ผ่านมา จากที่ได้เกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง โจมตีชุดปฏิบัติการจรยุทธกองร้อยทหารพรานที่ 4513 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต จำนวน 2 นาย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้จัดตั้งที่บังคับการทางยุทธวิธีขึ้น พร้อมให้หน่วยเร่งตรวจสอบรวบรวมวัตถุพยานต่าง ๆ กดดัน และเฝ้าตรวจทางอากาศ ตรวจสอบเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว และให้ทุกพื้นที่เพิ่มมาตรการในการคุ้มครองเส้นทาง และบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน จากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ในห้วงที่ดังกล่าว สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการตอบโต้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ หลังจากมีการเปิดแผนเชิงรุกเข้าพื้นที่ป่าภูเขา และพื้นที่ Support Site ซึ่งเป็นแหล่งหลบซ่อนพักพิงของผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อเข้าบังคับใช้กฎหมายพร้อมกันในทุกพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้เปิดแผนเข้าสกัดกั้นและกวาดล้างแรงงานต่างด้าว ยาเสพติด กลุ่มอิทธิพล ตลอดจนสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวกว่า 300 คน และ ผู้นำพา 15 คน รวมทั้งจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่นำไปสู่การยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ทั้งหมดนี้อาจเป็นปัจจัยเร่งทำให้มีการสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นการตอบโต้ดังที่ปรากฏให้เห็นทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061 – 173 – 2999 และเบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับกำลังพลที่เสียชีวิต ทั้ง 2 นาย แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เร่งดูแลเรื่องสิทธิตามระเบียบของทางราชการ อาทิ เงินช่วยเหลือ ค่าจัดการศพ ค่าทดแทน และการพิจารณาบรรจุทายาททดแทนตามสิทธิ์ โดยในวันนี้ ( 4 มีนาคม 2564 ) พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. จะเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ อส.ทพ. ศรราม ราชรักษ์ ณ วัดควนส้าน อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ในเวลา 16.00 น.
นอกจากการดูแลควบคุมพื้นที่แล้ว แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง โดยในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ได้ร่วมกิจกรรมเก็บเกี่ยวข้าวผลผลิตโครงการเกษตรนารวมผลิตข้าวอินทรีย์ ซึ่งจัดโดยเกษตรกรชาวนาตามโครงการเกษตรอินทรีย์บ้านละโพ๊ะ ตำบลป่าไร่ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาการเมือง คณะนักเรียนพหุวัฒนธรรม ตำบลป่าไร่ สถาบันพระปกกล้า จังหวัดปัตตานี ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน 1 ใน 5 งาน ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องดำเนินการ ให้สังคมมีความเป็นพหุวัฒนธรรม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการช่วยแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างสันติสุขในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้เดินหน้าขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการต่างๆ เพื่อให้หน่วยในสังกัด ได้ดำเนินการให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ พื้นที่จังหวัดยะลา จัดให้มี โครงการ “หน่วยเฉพาะกิจยะลา ไม่ทิ้งท่าน” โครงการ “เสริมทักษะภาษาไทย สร้างโอกาส เพื่ออนาคต” และโครงการเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียน เพื่อน้องๆ สอนให้เยาวชนปลูกผักสวนครัวใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์ สำหรับ จ.นราธิวาส ได้ดำเนินการ โครงการ “ฉก.นราธิวาส ซ่อมสร้าง ปันสุข” เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนรับทราบและเข้าใจถึงปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และสร้างความเข้าใจและสร้างทัศนคติที่ดีระหว่างประชาชนและภาครัฐ และ โครงการ “ลดช่องว่างสร้างความเข้าใจ ร่วมแก้ไขปัญหาความรุนแรง” พบปะพูดคุยกับครอบครัวผู้เห็นต่าง สร้างความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหา จชต. ต่อกระบวนการพูดคุยสันติสุข ในการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี
ด้าน พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ ทองสองสี หัวหน้างานกิจการพลเรือน กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ /ผู้ช่วยโฆษก กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แถลงถึงความคืบหน้าคดีความมั่นคงที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วงที่ผ่านมา โดยชี้แจงสรุปสถิติการเกิดเหตุความรุนแรงตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2564 และสถิติการออกหมายจับ ป.วิ.อาญาคดีความมั่นคง ซึ่งดำเนินการไปแล้ว จำนวน 3 หมาย จับกุม 1 ราย หลบหนี จำนวน 2 หมาย ส่วน ความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่ โดยเฉพาะเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มยิง เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดปฏิบัติการจรยุทธ กองร้อยทหารพรานที่ 4513 ผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืน ของกลางพบว่า ใช้ยิงมาจากอาวุธปืน จำนวน 18 กระบอก พบประวัติการก่อเหตุจำนวน 7 กระบอก เชื่อมโยง 19 คดี ที่สำคัญได้แก่ เหตุยิง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 และคดีดังกล่าวออกหมาย ป.วิ.อาญา 6 หมาย จับกุมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี 1 รายและผลการตรวจพิสูจน์สะเก็ดระเบิด (Toolmark) พบว่า เชื่อมโยงกับเหตุลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุด รปภ.ครู เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ทั้งนี่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ เป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มคนร้ายในคดีดังกล่าว
สำหรับผลคำพิพากษาคดีสำคัญมีดังนี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 ศาลจังหวัดปัตตานี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีลอบวางระเบิด เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เมื่อปี 2559 โดยลงโทษประหารชีวิต 6 คน จำคุกตลอดชีวิต 3 คน และจำคุก 36 ปี 8 เดือน 1 คน ซึ่งยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์, เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลจังหวัดปัตตานี พิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต 1 คน ในคดียิงนายโชติ อยู่เจริญ และนางอรวรรณ ดอกเตย (เสียชีวิต) เมื่อ 21 มกราคม 2551 และเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลจังหวัดปัตตานี พิพากษา จำคุกตลอดชีวิต 1 คน คดียิงนายฮำมือซะ แซยูโซะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิต เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2564
ภาพ/ข่าว
อับดุลหาดี เจ๊ะยอ จ.ยะลา