โจรใจบาปงัดตู้บริจาคลักเงินในซองอั่งเปาที่มาทำบุญเป็นค่าน้ำค่าไฟวัด

วันที่ 4 มีนาคม 2564 เวลา 18.10 น. ศูนย์วิทนุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดหน้าต่างศาลาหอฉันเข้าไปขโมยเงินในตู้รับบริจาค ที่วัดศิริสุขาภิบาล ม.2 ต.หนองนาคำ อ.เมือง หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.พีระ ราศี สว.สอบสวน จึงออกไปสอบสวนเหตุ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจเขตงานหนองนาคำ

ในที่เกิดเหตุเป็นศาลาหอฉันท์ของวัด พบคณะกรรมการวัด และพระกวิน กุศลจิตโต อายุ 21 ปี พระลูกวัด นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่หน้าต่างข้างศาลาหอท์ฉัน ที่ถูกคนร้ายใช้ของแข็งงัดจนเปิดออก ก่อนปีนเข้าไปภายในศาลา แล้วคนร้ายได้ยกตู้รับบริจาคทำด้วยไม้ออกไปด้านนอก แล้วก็ใช้ของแข็งงัดที่ล็อกตู้ขโมยเงินภายในตู้ไป โดยคนร้ายได้ทิ้งซองใส่เงินกระจัดกระจาย ใกล้กันพบมีดอีโต้วางอยู่ คาดว่าคนร้ายใช้เป็นอุปกรณ์งัดแงะ

พระกวิน กุศลจิตโต พระลูกวัด ให้การว่า วัดแห่งนี้มีพระ 8 รูป สามเณร 2 รูป วันนี้ช่วงเช้าหลังจากกลับจากบิณฑบาตมาฉันท์อาหารที่ศาลา ยังเห็นตู้รับบริจาคตั้งอยู่ จากนั้นช่วงเวลา 10.30 น.มีญาติโยมมานิมนต์พระและสามเณรไปฉันท์เพลที่บ้าน จนเวลา 12.00 น. ได้กลับมาวัด พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน จอดอยู่ภายในวัด ไม่นานรถกระบะก็ขับออกไปจากวัด ส่วนพระและสามเณรก็ไปกวาดลานวัด

จากนั้นอาตมาได้เดินเข้าไปที่ศาลาหอฉันท์ปรากฏว่าตู้รับบริจาคที่ตั้งอยู่บนศาลาหายไป จึงได้ไปบอกพระรูปอื่นและสามเณร ให้ช่วยกันออกหาตู้รับบริจาค จนมาพบว่าตู้บริจาคถูกนำมาทิ้งไว้หลังศาลา และพบว่าซองใส่เงินที่ญาติโยมทำบุญใส่ไว้ในตู้ เพื่อเป็นค่าน้ำค่าไฟ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 63 ที่ทางวัดยังไม่ได้เปิดตู้ ซึ่งมีเงินอยู่ในตู้ประมาณ 1,200-1,300 บาท ส่วนเงินที่อยู่ในซองแดงอั่งเปาและซองทำบุญที่ญาติโยมทำบุญใส่ไว้ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาอีกจำนวนหนึ่ง โดยเงินในตู้ทางวัดจะนำไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในวัด

พ.ต.ท.พีระ ราศี สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุคาดว่า คนร้ายอาจจะเข้ามาช่วงที่พระและสามเณรในวัดรับนิมนต์ออกไปข้างนอก โดยคนร้ายได้ใช้มีดอีโต้ที่เป็นมีดของทางวัด งัดหน้าต่างศาลาหอฉันท์ข้าไป แล้วยกเอาตู้รับบริจาคที่วางไว้บนศาลาออกไป แล้วใช้มีดอีโต้งัดที่ล็อกตู้บริจาคขโมยเงินในตู้ไป เบื้องต้นได้ให้ตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง และทะเบียนรถต้องสงสัย เพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี