สุรินทร์ เสี่ยงตายเช้า-เย็น นร.วอนขอสะพานลอยข้ามฝั่งถนน 4 เลน สายหลัก (มีคลิป)

สุรินทร์ เสี่ยงตายเช้า-เย็น นร.วอนขอสะพานลอยข้ามฝั่งถนน 4 เลน สายหลัก หลังทนเสี่ยงมานานหลายปี รถแต่ละคันใช้ความเร็วเป็นร้อย อย่างไม่ได้ขอแค่ไฟสัญญาณแจ้งเตือนกับเครื่องหมายจราจรบนพื้นถนนก็ยังดี

วันที่ 30 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายจีระพรรณ เพียรมี ผู้อำนวยการโรงเรียนรามวิทยา รัชมังคลาภิเษก ว่าเด็กนักเรียนได้รับความเดือดร้อน ในการข้ามถนนเพื่อไป-กลับ โรงเรียน เนื่องจากด้านหน้าโรงเรียนที่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 สายสุรินทร์-อุบลราชธานี 4 ช่องจราจร ซึ่งเป็นจุดที่นักเรียนต้องใช้เป็นทางข้าม ไปมาไปกลับ ระหว่างโรงเรียนกับบ้าน บริเวณดังกล่าวเป็นจุดโค้งไม่มีสะพานข้ามไม่มีสัญญาณเตือนผู้ขับขี่รถที่วิ่งด้วยความเร็วสูงทำให้เกิดปัญหาในการข้ามถนนของเด็กนักเรียน ในเวลากลางคืนไม่มีไฟส่องสว่างซึ่งมักเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง จึงอยากให้สื่อช่วยนำเสนอเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่โรงเรียนรามวิทยารัชมังคลาภิเษก ตั้งอยู่ริมถนนสาย 226 สุรินทร์-อุบลราชธานี บ้านสังแก ต.ราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบว่าเป็นถนน 4 ช่องจราจรแบบมีเกาะกลางถนน ช่วงเลิกเรียนเด็กนักเรียนบางส่วนที่นั่งรถสองแถวโดยสารประจำทาง ไปมาไปกลับ จะต้องข้ามถนนเพื่อมารอรถอีกฝั่งหนึ่งของโรงเรียน ด้วยความลำบากไม่มีความปลอดภัยในชีวิต เนื่องจากรถที่วิ่งไป-มา ทั้งสองฝั่งใช้ความเร็วค่อนข้างไว บางคันวิ่งเป็นร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง และถนนเป็นทางโค้งก่อนเข้าเขตโรงเรียน กว่าจะข้ามถนนได้ต้องใช้เวลานานพอสมควร แถมไม่มีไฟสัญญาณกระพริบ และป้ายแจ้งเตือนเขตโรงเรียน พื้นผิวถนนมีเพียงสัญลักษณ์ทางม้าลายที่สีเริ่มจางหายแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ บริเวณที่เด็กนักเรียนยืนรอรถประจำทางนั้น ก็ไม่มีศาลาพักรอรถ นักเรียนต้องอาศัยร่มจากป้ายโฆษณา เพื่อบังแดดร้อนแทน

นายจีระพรรณ เพียรมี ผู้อำนวยการโรงเรียนรามวิทยา รัชมัคลาภิเษก บอกว่า เคยได้มีการยื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสุรินทร์มาแล้วหลายครั้ง เรื่องขอความอนุเคราะห์เครื่องหมายอำนวยความปลอดภัยหน้าโรงเรียนศาลาพักริมทาง ด้วยทางโรงเรียนรามวิทยารัชมังคลาภิเษก สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่บ้านสังแก ตำบลราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ มีนักเรียน 1,132 คน เปิดสอนระดับชั้นมัธยม 1-6 ด้านหน้าโรงเรียนที่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 สายสุรินทร์อุบลราชธานี 4 ช่องจราจร ซึ่งเป็นจุดที่นักเรียนบางส่วนต้องใช้เป็นทางข้าม ไปมาไปกลับ ระหว่างโรงเรียน บริเวณดังกล่าวเป็นจุดโค้งไม่มีสะพานข้ามไม่มีสัญญาณเตือนผู้ขับขี่รถที่วิ่งด้วยความเร็วสูงทำให้เกิดปัญหาในการข้ามถนนของเด็กนักเรียน นอกจากนี้ในหน้าฝนนักเรียนต้องออกมารอนั่งรถโดยสารกลับบ้าน ไม่มีศาลารอรถทำให้เปียกฝนหรือขึ้นรถไม่ทันเพราะต้องข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ผู้สัญจรทั่วไปจึงขอความอนุเคราะห์แขวงทางหลวงสุรินทร์ได้ช่วยดำเนินการดังนี้จัดทำติดตั้งเครื่องหมายอำนวยความปลอดภัยหน้าโรงเรียน จัดทำศาลาที่พักเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนระหว่างรอรถ ติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างเกาะกลางถนนด้านหน้าโรงเรียนหรือสร้างสะพานลอยข้ามบริเวณด้านหน้าโรงเรียนก็จะดีมาก

ด้านน.ส.เกวลิน ขาวงาม น.ส.น้ำทิพย์ สร้อยดอก และ น.ส.วราพร วงษ์สุขะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 บอกว่า พวกตนเรียนที่นี่มา 5 ปีแล้ว ปัญหาที่พบคือรถที่แล่นผ่านไปมาจะไม่มีการชะลอความเร็วให้กับนักเรียนที่ข้ามถนนเลย เพราะว่าไม่มีสัญญานเตือนและไฟแจ้งเตือนอะไรเลย อยากจะขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลและดำเนินการเรื่องนี้ให้ รวมไปถึงอยากได้สะพานลอย และไฟสัญญานแจ้งเตือนต่างๆ ให้ทราบว่าเป็นพื้นที่เขตโรงเรียน ที่ผ่านมาเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก ขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยดำเนินการให้ด้วย

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงมหาดไทย ก็เดินทางมาร่วมปรึกษาหารือและรับหนังสือร้องเรียน เรื่องความปลอดภัยของเด็กนักเรียนในเวลาข้ามถนนบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 สายสุรินทร์-อุบลราชธานี 4 ช่องจราจร และรับปากจะแจ้งประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป