นนทบุรี 2 ตายาย ชาวสวน น้ำตาคลอ แจ้งตำรวจ หลังบริจาคเงิน 1 ล้านบาท สร้างอุโบสถวัด สุดท้าย ได้แค่ใบอนุโมทนาบัตรใบเดียว
1 min read
เมื่อเวลา 18.00 น วันที่ 28 เม.ย.64 ที่สภ.บางใหญ่ นางอำไพ จิตรักมั่น อายุ 79 ปี นายนพ จิตรักมั่น อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ 8 ตำบล บางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เข้าแจ้งความ ร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดี กับนาย อานนท์ณัฎฐ์ อายุ 69 ปี ไวยาวัจกร วัดศรีราษฎร์ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี หลังมาบอกให้ตนทั้งสองคน บริจาคเงิน เพื่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ ของวัดแห่งนี้ ตนทั้งสองคน จึงได้บริจาคเงิน จำนวน 1 ล้านบาท ให้กับนายอานนท์ณัฎฐ์ เพื่อนำไปสร้างอุโบสถ แต่ต่อมา ปรากฏว่า ไม่มีการสร้างอุโบสถตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เมื่อตนทั้งสองคน ไปทวงเงิน จากนายอานนท์ณัฎฐ์ ก็ได้รับคำตอบว่า จะเก็บเงินนี้ไว้ก่อน เนื่องจากยังก่อสร้างอุโบสถไม่ได้ เพราะติดปัญหา คือ ชาวบ้านยังไม่ยอมให้สร้าง โดยหาว่าที่ดังกล่าวเป็นที่จอดรถ จึงไม่อนุญาตให้สร้าง อีกทั้งยังมาเจอ ปัญหา การแพร่ระบาด ของเชื้อ covid19 ทำให้ไม่สามารถก่อสร้าง อุโบสถตามที่ตั้งใจไว้ ตนทั้งสอง จึงเอ่ยปาก ขอเงินคืน แต่นายอานนท์ณัฎฐ์ บอกว่า ทางวัดได้ออกใบอนุโมทนาบัตร ให้แก่ตนแล้ว เงินที่บริจาคมาก็ยังอยู่ในบัญชี ไม่ได้นำไปใช้แต่อย่างใด
นายนพ เล่าด้วยเสียงสั่นเครือว่า เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 62 นายอานนท์ณัฎฐ์ ได้ขับรถมารับตนเองที่บ้าน และพาไปที่ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาตลาดเจ้าพระยา อำเภอบางใหญ่ โดยตนเอง ได้เบิกเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท ให้แก่นายอานนท์ณัฎฐ์ไป หลังจากนั้นมา นายอานนท์ณัฏฐ์ ก็ได้มอบใบอนุโมทนาบัตร ของวัดศรีราษฎร์ จำนวนเงิน 1 ล้านบาท ตามที่ตน และสามี บริจาคไป แต่เวลา ผ่านมาเนิ่นนาน จนจะ 2 ปีแล้ว อุโบสถของวัด ก็ไม่ได้รับการก่อสร้างสักที ตนและสามี จึงเอ่ยปากขอเงินคืน จากเขาก่อน หากมีการสร้างอุโบสถเมื่อไหร่ ก็ยินดีจะบริจาค เหมือนเดิม แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเรื่อยมา จึงต้องนำความมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอให้ นำเงิน จำนวนดังกล่าว มาคืนให้ด้วย
ผู้สื่อข่าวนนทบุรี