สาวมึนเล่นเกมส์ได้สร้อยทอง นำไปขายกลายเป็นของปลอม

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.กระทุ่มแบน เข้าตรวจสอบเหตุผู้ต้องสงสัยนำทองปลอมมาจำหน่ายให้แก่ร้านห้างเพชรทองพงษ์สว่าง ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยเมื่อไปถึงที่ร้านทองก็พบเจ้าของร้านฯ พร้อมกับ หญิงสาวที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยนำทองปลอมมาขาย และ สร้อยคอคล้ายทองรูปพรรณ 1 เส้น (ของกลาง) ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญทั้งหมดไปให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.ประวิทย์ อาสานอก พนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้นก่อน ระหว่างรอการตรวจสอบหลักฐานและเจตนาในการกระทำ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นางสาวปัทมา นิลดำ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านทองฯ เล่าว่า สาวคนดังกล่าวเดินเข้ามาในร้านแล้วนำสร้อยคอทองคำมายื่นให้ดู 1 เส้น แล้วถามว่าถ้าจำนำได้เท่าไหร่ ซึ่งตนก็บอกราคาจำนำไป แต่สาวคนดังกล่าวบอกว่า ถ้าเปลี่ยนจากจำนำเป็นขายได้มั้ย ทางร้านก็บอกว่าขายได้สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ให้ 26,000 บาท จากนั้นทางร้านก็นับเงินเตรียมไว้จ่ายให้ลูกค้า แต่ก่อนที่จะส่งเงินให้นั้นก็ได้นำทองไปเป่าดู จึงพบว่าไม่ใช่ทองจริงกลายเป็นทองปลอม ก็เลยเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาคุมตัวไปสอบสวนเพราะมีพฤติกรรมคล้ายมิจฉาชีพ ส่วนพิรุธนั้นก็แทบจะไม่มีให้เห็น โดยหญิงสาวยินยอมให้บัตรประชาชน แต่จะมีก็แค่ตอนแรกบอกจะจำนำ ตอนหลังเปลี่ยนมาขายแทนเท่านั้นเอง ซึ่งช่วงนี้ทางร้านจะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพราะมีพวกมิจฉาชีพนำทองปลอมมาหลอกขายบ่อยครั้ง โดยที่เคยเจอมาคือจะใช้วิธีการเปลี่ยนตะขอเป็นทองคำจริงเนื่องจากมีชื่อร้าน ดังนั้นร้านทองจึงต้องระวังเป็นพิเศษ ต้องมีการเป่าและตรวจสอบให้มากขึ้น

ขณะที่ทางด้านของนางสาวหฤทัย แจ้งหลำ อายุ 42 ปี สาวที่ตกเป็นผู้ต้องหาว่านำทองปลอมมาขายให้กับร้านทองก็บอกว่า ตนเองไม่รู้จริงๆ ว่าสร้อยคอน้ำหนัก 1 บาท ที่นำมาขายเป็นทองปลอม เพราะสร้อยเส้นนี้ตนเองได้มาจากการเล่นเกมส์ตอบคำถามทางเฟสบุ๊ค ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจนำมาขายเพราะว่า ช่วงนี้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินจากสถานการณ์โควิด จึงได้นำสร้อยทองเส้นนี้ออกมาขาย แต่ปรากฏว่าเมื่อทางร้านตรวจสอบแล้วเป็นทองปลอม ตนเองก็ยังมึนๆ งงๆ อยู่เหมือนกัน เนื่องจากทางเจ้าของเกมส์ตอบคำถามที่เล่นไปนั้นบอกเป็นสร้อยคอทองคำแท้จากเยาวราช

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาแก่นางสาวหฤทัย แจ้งหลำ ไว้ก่อนว่า ฉ้อโกงทรัพย์ แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ระหว่างผู้เสียหาย กับ ผู้ต้องหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้เรียกบุคคลทั้งสองฝ่ายมาตกลงความกันอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร