เพชรบูรณ์ เจ้าของวงดนตรีกระทบโควิด-19 ไม่มีงานหันเหเปิดขายอาหารตามสั่งแถมฟรีไข่ดาว & ยำ แซ่บซี๊ด 20 บาท (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สองสามีภรรยา เจ้าของธุรกิจวงดนตรี วราธรซาวด์&คอนเสริร์ต ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19อย่างหนัก จนไม่มีงาน ไม่มีเงิน ทำให้ลูกน้องในวงกว่า 30 ชีวิต ก็ต่างต้องแยกย้ายไปหางานทำชั่วคราว บ้างก็ ไปเลี้ยงควาย เลี้ยงวัว ทำก่อสร้าง ฯลฯ ส่วนเจ้าของวง ได้หันมาเปิดร้านอาหารตามสั่ง & ยำ แซ่บซี๊ด 20 บาท เพื่อประคองครอบครัวให้อยู่รอด ในช่วงสถานการณ์ยากลำบากเช่นนี้

จึงเดินทางไปที่ ร้านเจ๊หน่อง by อาหารตามสั่ง & ยำ แซ่บซี๊ด 20 บาท ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่11บ้านวังกระดาษ ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ พบกับเจ้าของร้าน คือ นายวราธร ยอดมี อายุ 39ปี และนางรัฐฎาพร เนตรแสงศรี อายุ 39 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของวงดนตรี วราธรซาวด์&คอนเสริร์ต ที่ขณะนี้ ได้หันเห มาเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง หลังได้รับผลกระทบจากโควิด โดยทั้งคู่ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ทำธุรกิจวงดนตรี รับงานดนตรี ไฟประดับงาน เครื่องปั่นไฟ อุปกรณ์งานอีเว้นท์ งานบวช งานแต่ง ซึ่งมีงานให้ทำแทบทุกวัน แต่หลังจากเกิดโควิด ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้งานที่เคยรับไว้ ถูกยกเลิกจนหมด จนไม่มีงาน ภาระค่าใช้จ่าย เช่น ค่ารถ ค่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ก็เยอะ ไหนจะต้องเลี้ยงลูกน้องอีก ทำให้ประสบปัญหาการเงิน จึงปรึกษากับครอบครัว ลองหาอาชีพเสริมเพื่อความอยู่รอดในช่วงนี้ จึงเกิดไอเดีย เปิดร้านอาหารตามสั่งลองดูไหม ประกอบกับแฟน พอมีฝีมือด้านทำอาหารอยู่ จึงตัดสินใจเปิดขายอาหารตามสั่ง อาหารทุกอย่าง 40 บาท แถมฟรีไข่ดาว เช่น กระเพราหมูสับ ,กระเพราไก่ ,กระเพราเนื้อ , กระเพราทะเล ฯลฯ นอกจากนี้ ก็ยังมีเมนูยำแซ่บซี๊ดติดปาก 20 บาททุกจาน เฃ่น ยำวุ้นเส้น ,ยำมาม่า,ยำรวมมิตร ,ยำทะเล ,ยำปลาหมึก เป็นต้น

โดยเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. รายได้เฉลี่ย ยังไม่หักต้นทุน วันละ 3,000 – 4,000 บาท ซึ่งตั้งแต่เปิดร้านมา ได้ราว 1 สัปดาห์ ปรากฎว่า ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก มีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุน และโทรสั่งซื้อไปทานที่บ้าน โดยทางร้านจะออกบริการส่งให้ฟรี ในรัศมีไม่เกิน 10 กม. ส่วนลูกค้าที่มานั่งรับประทานที่ร้าน ก็จะจัดเตรียม เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมแมส เว้นระยะห่าง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

นายวราธร ยอดมี อายุ 39ปี เล่าว่า จากสถานการณ์โควิดเช่นนี้ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจวงดนตรีอย่างหนัก จำเป็นต้องหาอาชีพเสริม ด้วยการขายอาหารตามสั่งไปก่อน เพื่อความอยู่รอด ส่วนลูกน้องในวง กว่า 30 ชีวิต ที่ต่างต้องแยกย้ายไปหางานทำชั่วคราว บ้างก็ ไปเลี้ยงควาย เลี้ยงวัว ทำก่อสร้าง รับจ้างรายวัน กันนั้น หากสถานการณ์กลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ มีงานดนตรีและงานอีเว้นท์เข้ามาเช่นเดิม ก็จะรีบแจ้งให้ทีมงานรับทราบ เพื่อกลับมาร่วมงานกันอีกเช่นเคย

ภาพ/ข่าว เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว