ชาวบ้านพอใจ จนท. แก้ไขปัญหายาเสพติดเกินคาดวัยรุ่นเดินมาสารภาพ
1 min read
บุรีรัมย์-ผู้นำท้องถิ่น-ชาวบ้าน พอใจโครงการ”การแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนอย่างยั่งยืน”ของตำรวจ หลังเริ่มโครงการมาได้เพียงครึ่งทาง จากการเข้าบูรณาการร่วมกับชาวบ้านค้นหาผู้เสพ ผู้ค้า ผู้ปกครองหลายคนอึ้งลูกเดินเข้าหา จนท.ขอบำบัด ทั้งที่ครอบครัวไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกติดยา ผบช.ภาค 3 เผยการดำเนินการแบบองค์รวม ได้ผลเกินคาด เตรียมขยายพื้นที่โครงการพร้อมใช้กฎหมาย
วันที่ 12 มิ.ย.64 ที่วัดโพธิ์ทอง หมู่ 9 ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการ”ดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ”ซึ่งได้ดำเนินการมาได้กว่า 45 วันจาก 90 วันของโครงการโดยระหว่างการเสวนาภายในวัดโพธิ์ทอง มีผู้นำชุมชน ผู้ปกครองเด็ก ต่างออกมาแสดงความดีใจต่อ ผบช.ภาค 3 เป็นระยะ ส่วนใหญ่ชื่นชมโครงการนี้ ว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะสามารถเป็นตัวแทนในการค้นหาความผิดปกติของคนในครอบครัว โดยที่ไม่มีใครบังคับ
พ.ต.อ.สมยศ พื้นชัยภูมิ ผกก.สภ.พุทไธสง อ.พุทไธสง กล่าวว่า โครงการนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.64 ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทราบข้อมูลว่าหมู่บ้านโพธิ์ทอง มีกลุ่มวัยรุ่นชอบมั่วสุมเสพยาเสพติด สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครอง สร้างปัญหาให้กับชุมชน
การดำเนินงานโครงการ เริ่มต้นจากการจับมือกับเครือข่าย ทั้งตำรวจ ,ฝ่ายปกครอง ,สาธารณสุข, ผู้นำท้องถิ่น ทุกภาคีเครือข่าว เข้าไปประชุมร่วมกัน พร้อมแสดงเจตนารมณ์ของโครงการ
จากนั้นได้มีการประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ที่เสพยาเสพติด สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพื่อขอเลิกยาเสพติด ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ มีวัยรุ่นทยอยเดินมาสารภาพและขอเข้าร่วมโครงการเป็นระยะ จนล่าสุดมีวัยรุ่นเดินเข้ามาแล้ว 14 คน และคาดว่าวัยรุ่นน่าจะเดินเข้ามาอีก เพราะโครงการจะมีการส่งเสริมการศึกษา ,ส่งเสริมอาชีพรวมอยู่ด้วย
น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ)หนึ่งในกลุ่มผู้เสพยาเสพติด บอกว่า ยอมรับว่าตอนร่วมเสพยากับเพื่อนตอนแรก สนุกแล้วมีความสุข หลังจากนั้นเริ่มทุกข์ใจ เพราะต้องหาเงินมาซื้อยาฯมาเสพ และต้องไปทะเลาะกับครอบครัว บางครั้งต้องแอบขโมยเงิน อีกทั้งสังคมยังไม่ยอมรับ กลายเป็นความทุกข์ หลังจากนี้จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก
นางพุ่ม (สามสมมุติ)ผู้ปกครองเด็กที่เข้าร่วมโครงการบอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าลูกไปทำอะไรกับเพื่อน ไม่เคยรู้ว่าลูกเสพยา หลังจากมีเจ้าหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้านลูกวัย 16 ปี ได้หายออกจากบ้านไป 2 วันโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงออกตามหากระทั่งมารู้ว่าลูกเข้าร่วมโครงการ ยอมรับว่าไม่รู้ว่า”ลูกติดยาเสพติด”พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภาค 3 กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ดำเนินการตามขั้นตอนหลายมิติ เบื้องต้นไปเจรจากับแม่ทัพ ขอให้ซีนพื้นที่แนวชายแดนในเขตความรับผิดชอบของภาค 3 เนื่องจากยาเสพติดจะทะลักเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน อีสานตอนบนยาเสพติดจะเข้ามาทางจังหวัดนครพนม อีสานตอนล่างจะเข้ามาทาง อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ดังนั้นจึงวางมาตรการการตั้งด่านตามเส้นทางสำคัญของการลำเลียงยาเสพติด ในห้วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้ครั้งละ 3-4 ล้านเม็ด ถือว่าล็อตใหญ่
นอกจากนี้เรายังบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่เราจะใช้กฎหมายฟอกเงิน เข้าไปยึดทรัพย์สินเพื่อให้เข็ดหลาบและเพื่อให้เป็นตัวอย่างของผู้ค้ารายใหม่
ส่วนมาตรการขั้นสุดท้ายคือการรับผู้เสพยามาบำบัดแบบบูรณาร่วมกันกับชุมชน ตามโครงการดังกล่าว จากการตรวจเยี่ยมโครงการที่เดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว พบว่าผู้ปกครองล้วนแต่พอใจ รวมถึงผู้นำชุมชน ต่างขานรับและอยากจะให้มีการขยายโครงการนี้อีก ทั้งนี้โครงการมาจากนโยบายของรัฐบาล แต่หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสนับสนุนเรื่องงบประมาณ ทางตำรวจก็พร้อมจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่