เปิดรพ.สนามแห่งที่ 2 “ศูนย์มรกต” รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ผู้ว่าอุดรเผย หากพื้นที่ไหนประกาศล็อคดาวน์ ก็จะนำลูกหลานกลับมารักษา

วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.00 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานส่งมอบ“ศูนย์มรกต” หรือ “ศูนย์พักคอย” (Community Isolution) บริเวณอาคารคลังสินค้า นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ให้กับ นพ.ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุข พญ.ฤทัย วรรธนวินิจ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ของอุดรธานี โดยมีนายสุวิชย์ และนางอรพิณ พิพัฒน์วิไลกุล ประธาน และรองประธาน บริษัทมืองอุตสาหกรรมอุดรธานีจำกัด เจ้าของพื้นที่มาร่วมส่งมอบ พร้อมรอง ผวจ.อุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรเอกชน ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวขอบคุณนายสุวิชย์ และนางอรพิณ พิพัฒน์วิไลกุล ประธานและรองประธาน บริษัทเมืองอุตสาหกรรมอุดรธานีจำกัด ที่มอบพื้นที่อาคารคลังสินค้าขนาดใหญ่ ให้ทางราชการได้ใช้เป็น “ศูนย์มรกต” ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง และขอบคุณภาคเอกชนอุดรธานี ที่อยู่เคียงข้างในการแก้ไขปัญหามาตลอด และขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันทำงานทั้งตลอด 7 วัน จากคลังสินค้าสร้างเสร็จใหม่ จนวันนี้มีสิ่งสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก สามารถมอบพื้นที่ให้แพทย์-พยาบาล นำไปดูแลผู้ป่วยได้แล้ว

นพ.ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุข กล่าวว่า ศูนย์มรกตอุดรธานี เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือทุกฝ่าย จากการอำนวยการของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ที่พร้อมจะดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะลูกหลานชาวอุดรธานี ที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน มารักษาอาการป่วย วันนี้เรามีสถานที่รองรับได้ในระดับหนึ่ง คณะแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมต่อสู้กันอย่างเต็มที่

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมคณะได้ดูพื้นที่อาคารหลังสินค้ายักษ์ 3 หลังๆ ละ 9,100 ตรม. หลังแรกใช้เป็นอาคารผู้ป่วยแยกชาย/หญิง ตั้งเตียงเอาไว้ จำนวน 450 เตียง เป็นเตียงกระดาษ ที่นอน-หมอน-ผ้าห่ม-พัดลม พร้อมของใช้ส่วนตัว มาเตรียมไว้ ซึ่งสามารถเพิ่มเตียงได้ 2 เท่า มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรอง และกล้องวงจรปิดทั้งภายนอก เพื่อดูแลความเรียบร้อย และภายในเพื่อเฝ้าดูผู้ป่วย อาคารหลังที่สองครึ่งอาคาร ได้นำเต้นขนาดใหญ่ 800 ตรม. มาทำเป็น “ส่วนแพทย์” ติดตั้งเรื่องปรับอากาศ เป็นพื้นที่ปฏิบัติการณ์ และพื้นที่นอนพักผ่อน

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า อุดรธานี มีศูนย์แคร์ที่ ในมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ดูแลผู้ป่วยพักฟื้นรอกลับบ้าน ศูนย์มรกต ในนิคมสอุตสาหกรรมอุดรธานี พร้อมรับผู้ป่วยสีเขียว เข้ามารับการตรวจรักษาแล้ว อยู่ที่คณะแพทย์จะตัดสินใจ นำผู้ป่วยเข้ามารักษาในวันไหน เป็นเรื่องเทคนิคของคณะแพทย์ สถานที่แห่งนี้เป็นของเอกชน ท่านให้เราใช้ไม่คิดมูลค่า ไม่มีเวลาจำกัดจะใช้งาน อยู่ห่างไกลจากชุมชน แต่ก็ไม่ไกลจาก รพ.ศูนย์อุดรธานี สามารถขยายรับผู้ป่วยเพิ่มได้ และมีความมั่นคงหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น

“ศูนย์มรกตอุดรธานีจะมีผู้ป่วยสีเขียว หากตรวจหาเชื้อครบ 2 ครั้งไม่พบ ก็สามารถกลับไปกักตัวที่บ้านได้ แต่บ้านก็ต้องมีความพร้อม หากไม่พร้อมก็จะกักตัวให้อยู่ต่อ ผู้มารับการรักษาก็จะหมุนเวียนเข้ามา สำหรับการนำลูกหลานอุดรฯ กลับบ้าน ดำเนินการมาแล้ว 3 เที่ยว มีผู้ขอเดินทางมามากขึ้นเรื่อยๆ พรุ่งนี้จะกลับมาอีก 5 คันราว 200 คน มากกว่าที่กำหนดไว้วันละ 4 คัน หากพื้นที่ไหนประกาศล็อคดาว ก็ยังคงสามารถจะนำลูกหลานกลับมาได้ เพราะเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน”

แพทย์หญิง พญ.ฤทัย วรรธนวินิจ ผอ.โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า บุคลากรทางการแพทย์ทั้งจังหวัดได้ช่วยกัน ได้แบ่งสัดส่วนพื้นฐานไว้แพทย์ 1 คน ดูแลผู้ป่วย 60 คน โดยประมาณ สามารถปรับได้ตามสภาวะของผู้ป่วย เรามีโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ศูนย์แคร์ 1 โอบอุ้ม 1 ใช้แพทย์ทั้งจังหวัด โดยมีแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานีเป็นหลัก และมีแพทย์โรงพยาบาลแต่ละอำเภอเวียนกันมาช่วย รวมทั้งทีมพยาบาลด้วย ที่โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ศูนย์มรกต ศูนย์พักคอย ก็เช่นกัน ใช้แพทย์จากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และโรงพยาบาลชุมชน เข้ามาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

“ส่วนเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในการจัดหา ขณะนี้ได้มาทั้งหมด 73 เครื่อง ราคาเครื่องละประมาณ 250,000 บาท รวมกว่า 18 ล้านบาท ทำให้เครื่องมือไม่ขาดแคลน ปัญหาตอนนี้คือมีเงินก็ซื้อเครื่องมือไม่ได้ โชคดีที่เราจองไปก่อน เราจึงมีไฮโฟลว์ 20 เครื่อง และยังมีผู้แสดงความจำนงขอบริจาคเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งขอบคุณทั้งในส่วนจังหวัดอุดรธานี และส่วนอื่นๆ บริจาคมา ซึ่งคนอุดรธานี คงจะอยู่ทุกทีของประเทศไทย เมืองเกิดของเราต้องการความช่วยเหลืออะไร คนอุดรไม่เคยทิ้งกัน”

ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี