ปราจีนบุรี โอละพ่อผู้ใหญ่บ้านตรวจอดีตภารโรงไม่มีบ้านอยู่

วันที่ 8 ส.ค.64 ที่บ้านหนองช้างลง ม.4 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายแสวง พาบัว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่4เข้าตรวจสอบกลุ่มจิตอาสาที่จะมาปลูกบ้านให้ลูกบ้านโดยจะปลูกบ้านในที่ดินของเพื่อนบ้านกลุ่มจิตอาสาได้พาดพิงถึงผู้ใหญ่บ้านว่าไม่สนใจลูกบ้านไม่มีบ้านอยู่จึงเดินทางไปยังบ้านนางลัดดาวัลย์ แก้วเดช นางลดาวัลย์ กล่าวว่า นายเฉลิมพล โสทธิสงค์ อายุ64 ปี และนางละเอียด ครุทธาอายุ 62ปีภรรยา มาขอปลูกบ้านในดินของตนต่อมามีกลุ่มจิตอาสาเข้ามาเพื่อที่จะสนับสนุนการสร้างบ้านให้กับนายเฉลิมพลและนางละเอียดโดยกลุ่มจิตอาสาได้ระดมทุนซื้อเสาปูนมาให้6ต้น จะให้ปลูกบริเวณมุมด้านทิศตะวันออกของบ้าน อาจล้ำที่สาธารณะเป็นบางส่วน

นายแสวง พาบัว ผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยผู่ใหญ่บ้าน สอ.บต.ได้ทักท้วงการสร้างบ้านให้กับบุคคลทั้งสอง เนื่องจากว่าบุคคลทั้งสองนั้นมีที่อยู่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในบ้านพักของนักการภารโรงในโรงเรียนบ้านหนองช้างลงหากทำการปลูกบ้านในที่ของบุคคลอื่นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์อาจเกิดปัญหาขัดแย้งภายในข้างหน้าซึ่งไม่มีการแบ่งขายให้เป็นสัดส่วน แม้ว่าเจ้าของบ้านจะบอกว่าที่ผ่านมาเคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมานานร่วม10ปีแต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถเป็นหลักประกันได้ว่าจะไม่มีปัญหาในอนาคตข้างหน้า

นายเฉลิมพล กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นนักภารโรงแล้วปลดเกษียณแล้วผอ.โรงเรียนให้อาศัยอยู่ที่บ้านพักตนป่วยเป็นโรคนิ่วและตาต้อภรรยาก็มีโรคประจำตัวซึ่งมีรายได้จากขายของที่ร้านของญาติมีรายได้วันละ150บาท หากเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ผอ. ปลดเกษียณเกรงว่าจะไม่มีที่อยู่จึงอยากให้มีหน่วยงานใดมาช่วยเหลือสร้างบ้านให้และมีจิตอาสาระดมทุนซื้อเสาที่จะสร้างบ้านให้ในวันนี้
จิตอาสาโดยทีมงานโอ๋กบินทร์ กล่าวว่า หลังจากมีคนแจ้งเข้ามายังกลุ่มจิตอาสาจึงระดมทุนซื้อเสาเพื่อที่จะสร้างบ้านให้กับบุคคลทั้งสองเพื่อที่จะให้มีบ้านอยู่เป็นหลักแหล่งและลงเฟซบุ๊คว่าผู้ใหญ่บ้านไม่สนใจลูกบ้านไม่เป็นความจริงและไม่ได้ท้าทายใครก่อนจะระดมทุนเข้ามาเพื่อที่จะสร้างบ้านในครั้งนี้ได้สอบถามนายเฉลิมพลแล้วว่าได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบเรื่องแล้วหรือยัง

นายเฉลิมพลบอกว่ายังไม่ได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบแต่อย่างใดเป็นการเข้าใจผิดกันจึงขอโทษผู้ใหญ่บ้านตนเองเป็นจิตอาสาเคยช่วยสร้างบ้านให้กับผู้ยากไร้มาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้เป็นการสื่อสารไม่เข้าใจกันทำให้เกิดความเสียหายให้กับผู้ใหญ่บ้านและผู้นำตนขอโทษต่อหน้าทุกคนที่ทำลงไปไม่มีเจตนาใส่ร้ายใคร