จับ”บังมิตร”ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า!ลุงวัย58 ปีทวงหนี้พนันลูกชาย ก่อนจัดฉากทิ้งศพตลาดต้นตาล

   เมื่อเวลา 15.30 น วันที่ 30 ตุลาคม 2564 ที่สภ.บางบัวทอง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ. 1, พล.ต.ต.สหรัฐ สักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.ๆ ปฏิบัติราชการ ภ. 1 ,พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ก.จว.นนทบุรี , พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ศุภกฤชเดือนแจ้งรัมย์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด, พ.ต.ท.จักรพรรดิ ปะถาปะตา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ

นายสมไสวหรือบังมิตร หมัดบู่ อายุ 40 ปี 41/4 ม.3 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ,นนทบุรี น.ส.สุกัญญาหรือนะ ลามอ อายุ 37ปี บ้านเลขที่ 15/15 ม.3 ต.บางตลาดอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายยุทธภูมิ ฬกถาวร อายุ 16 ปี บ้านเลขที่ บ้านเลขที่ 15/15 ม.3 ต.บางตลาดอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 4 น.ส.ขวัญชนก ปัญญาสี อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 3 ซอยประชานิดเวศน์ 3 ซอย 14/8 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใคๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย “พร้อมด้วยของกลาง1. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีชูซุ รุ่นดีแม็ค สีขาว – ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (หมายเลข ทะเบียน กง-3873 กรุงเทพมหานคร)

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิต บริเวณตลาดนัดต้นตาล ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงได้เดินทางไป ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแจ้งแพทย์ร่วมชันสูตร และทีมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ ชายไม่ทราบชื่อนอนเสียชีวิต ลักษณะนอนหงายสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ นอนอยู่บริเวณลาดจอดรถ เบื้องต้นติดเชื้อโควิด19คาคว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ช.ม.

ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายดำพร หงส์เวียงจันทร์ อายุ 58 ปีอยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 7 ต.เจ้าวัด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ขี่ห้ออีซูซ รุ่นดีแม็ค สี่ประตู สีขาว – ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนซึ่งมีนายคำพรฯ ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ท้ายกระบะ โคยมีนายยุทธภูมิ ฬกถาวร นั่งพยุง และ น.ส.ขวัญชนก ปัญญาสี นั่งอยู่ข้าง โดยมีนายสมไสวหรือบังมิตร หมัดปู่ เป็นคนขับรถ และน.ส.สุกัญญาหรือนะ ลามอ นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ

ผลการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นฟังได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุลูกของนายดำพร หงส์เวียง จันทร์ (ผู้ตาย) เป็นหนี้การพนันกับนายสมไสวหรือบังมิตร หมัด (ผู้ต้องหา) และลูกของผู้ตายได้หลบหนีไปไม่ชำระหนี้ เป็นเหตุให้นายสมไสวหรือบังมิตรฯ ผู้ต้องหา ไม่พอใจต่อมาวันที่26 ต.ค.2564 นายสมไสวหรือบังมิตร ฯ ผู้ต้องหาและพวกได้ไปลักพาตัวนายคำพรฯ ผู้ตายจากบ้านพักที่พื้นที่อู้บอน กรุงเทพฯ และนำมากักขังไว้ที่บ้านของนายสมไสวหรือบังมิตรฯผู้ต้องหา ที่ซอยประเสริฐอิสลาม ซอย 38 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.64 เวลากลางวัน ผู้ต้องหาได้ทำร้ายร่างกายผู้ตายจำนวนหลายครั้งเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกนำตัวผู้ตายออกจากบ้าน ไปยังวัดสะพานสูง เมื่อถึงวัดสะพานสูงผู้ต้องหาและพวกได้ย้ายร่างของผู้ตายเข้าไปควบคุมภายในรถกระบะเพื่อไม่ให้ถูกผู้ใดพบเห็นต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น.ผู้ต้องหาและพวกได้ขับรถยนต์กระบะวนมาถึงบริเวณตลาดต้นตาล เพื่อนำร่างของผู้ตายมาไว้ที่ตลาดต้นตาล ซึ่งขณะนั้นผู้ตายถึงแก่ความตายแล้ว หลังจากนั้นผู้ต้องหาและพวกได้ช่วยกันนำร่างของผู้ตายไปวางไว้บริเวณลานจอดรถของตลาดต้นตาลหลังจากนั้นผู้ต้องหาและพวกได้ขับรถหลบหนีไป โดยทิ้งศพผู้ตายไว้ยังที่เกิดเหตุ
  

พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเหตุร่วมกับแพทย์ตรวจพบเชื้อโควิดเป็นผลบวกจากผู้เสียชีวิต และมีชาวบ้านที่เห็นบอกว่ามีรถต้องสงสัยถอยรถชนคนตาย ตำรวจจึงติดตามตัว ได้รับความร่วมมือจากนิติวิทยศาสตร์ พบว่าผู้เสียชีวิตถูกกระทำจากของแข็ง ผู้บังคับบัญชาการภาค1 ให้ดำเนินเรื่องเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้ตาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายสมไสว หมัดบู่ ได้ทะเลาะกับนายกฤษณพงศ์ หงส์เวียงจันทร์ เป็นหนี้ของนายสมไสว จำนวน 57,000บาท เรื่องของการพนันฟุตบอล และหนีไม่ยอมใช้หนี้ เป็นเหตุให้นายสมไสวโกธรเคือง และทราบว่านายกฤษณพงศ์มีบิดาอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง จึงร่วมกันกับพวกลักพาตัวคำพร หงส์วียงจันทร์ จากพื้นที่กรุงเทพมากักขับไว้ที่ประเสริฐอิสลามซอย 38 หลังจากนั้นได้พูดขมขู่ให้นายคำพรชดใช้หนี้ แต่ไม่สามารถใช้หนี้ได้ จึงทำให้นายสมไสวหรือบังมิตรเตะนายคำพร วันที่ 28 ต.ค.64 ตอนกลางวัน มีพยานบอกว่าลุงคำพรถูกเตะจนอาการสาหัสเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00น. ได้มีการนำตัวลุงคำพรไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่ระหว่างนั้นลุงคำพรอาการสาหัส ทีแรกลุงคำพรอยู่ท้ายกระบะ แต่อาการไม่ดีจึงให้ลุงคำพรเข้าไปภายในรถเพื่ออำพรางคดี หลังจากนั้นได้พาศพลุงคำพรมาที่จุดเกิดเหตุ เพื่ออำพรางพยานหลักฐานเพื่อปกปิด ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการทั้งหมด 4 คน คนที่เป็นตัวหลักคือนายสมไสวหรือบังมิตร อยู่ที่ซอยประเสริฐอิสลาม 38 ถูกแจ้งข้อหาว่าร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย ซึ่งมีผู้ต้องหา 3คนที่ร่วมกันกับบังมิตร เบื้องต้นผู้ต้องหารับเป็นหนี้เรื่องการพนัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบต่อนอกจากหนี้การพนันแล้วจะมีเรื่องอื่นที่ผิดกฏหมายแทรกเข้ามาหรือไม่ จะให้นายกฤษณพงศ์นำศพพ่อไปทำพิธีต่อ และจะสอบปากคำเพิ่มเติม

  ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน
ผู้สื่อข่าวนนทบุรี