ตาก ปธ.กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศสภาผู้แทนราษฎร เตรียมผลักดันเปิดท่าข้าม ท่าเรือธรรมชาติ หลังเปิดประเทศ
1 min readตาก ปธ.กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศสภาผู้แทนราษฎร เตรียมผลักดันเปิดท่าข้าม ท่าเรือธรรมชาติ หลังเปิดประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจพื้นที่ชายแดน โดยต้องใช้มาตรการควบคุมเข้มข้น
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเศรษฐกิจใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ-กิจการชายแดนไทย-ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะกรรมาธิการฯ รองประธาน ฯ โฆษกฯ และคณะกรรมาธิการ ฯลฯ เดินทางมาที่ชายแดนไทยเมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อศึกษาดูงานเรื่องแนวทางการเปิดตลาดการค้าชายแดนไทย-เมียนมา และดูปัญหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 พื้นที่ชายแดน และปัญหาเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนในพื้นที่ชายแดนริมแม่น้ำเมย โดยมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ ด่านพรมแดน 2 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 บ้านวัวตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก
นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐกิจ-การชายแดนไทย-ยุทธศาสตร์ชาติและ การปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เมื่อมีการเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และได้มีการส่งออก นำเข้า สินค้าชายแดน อย่างเป็นปกติ รวมทั้งการรองรับ การใช้แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ซึ่งต้องมีการข้ามแดน นอกจากนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ ยังจะมีการเสนอ และผลักดันในเรื่องของการเปิดท่าข้ามธรรมชาติ-ท่าเรือขนส่งสินค้า ตามริมแม่น้ำเมย เพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจการค้าท้องถิ่น ให้มีการค้าขาย ในชุมชน ท้องถิ่น เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจกระจายในท้องถิ่น เช่นเดียวกับเศรษฐกิจในระดับชาติ ได้กระจายในพื้นที่ ภายหลังซบเซามานานในช่วงที่เกิดวิกฤต การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 อย่างไรก็ตามอาจจะมีการเปิดท่าเรือท่าข้ามธรรมชาติ หากมีการข้ามแดนจริง คงจะต้องมีการ ใช้มาตรการเข้มข้นในการตรวจ หาเชื้อไวรัสฯ ด้วยโดยใช้มาตรการที่เข้มข้น เพื่อสกัดกั้นไวรัส covid-19 อย่างดีที่สุด เช่นมาตรการ ที่ต้องมีการการฉีดวัคซีนป้องกันให้ครบโดส (ครบ 2 เข็ม และบูชเต้อร์โดสหรือเข็ม 3) และการตรวจหาเชื้อไวรัส ที่เข้มข้น ในการสว้อป เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ-กิจการชายแดนไทย-ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศสภาผู้แทนราษฎร ยังจะเดินทางไป ดูงานเรื่องแนวทางการเปิดตลาดการค้าชายแดน สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ที่ต้องเข้มข้น และปัญหาเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนในพื้นที่แม่น้ำเมย นอกจากนี้คณะยังจะเดินทางไปสักการะ ไห้วพระที่วัดไทยวัฒนาราม วัดโบราณที่มีศิลปะ วัฒนธรรม แบบ ประสม ประสาน ไทย-เมียนมา รวมทั้งการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงด้านปกครอง ด้านสาธารณสุขด้านพาณิชย์และอุตสาหกรรมร่วมกับหอการค้า-สภาอุตสาหกรรม ที่ด่านพรมแดนไทย-เมียนมา เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทาง การเปิดด่านการค้าชายแดน รวมทั้งเดินทางไป ศึกษาพื้นที่โดยรอบของพื้นที่พักพิงผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบบ้านแม่หละ ต.แม่หละ อ.แม่ระมาด จ.ตาก และเดินทางไปดูงานการนำเข้า-ส่งออกสินค้าผ่านช่องทาง ท่าเรือ ท่าข้าม 23 บ้านวังแก้ว ต .แม่ปะ อ.แม่สอด
และไปดูงาน บริเวณพื้นที่เกาะกลางแม่น้ำเมยระหว่างไทยและเมียนมาเพื่อรับทราบถึงสภาพปัญหาเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนบริเวณดังกล่าว เพื่อคณะกรรมาธิการจะได้เร่งแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้น เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิพาท ด้านแนวเขตแดนระหว่างไทย-เมียนมา อีกต่อไป เนื่องปัญหาการปักปันเขตแดน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนานแล้วจำเป็นที่จะต้องแก้ไขให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ จะเร่งดำเนินการใน การผลักดัน การปักปันเขตแดนในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด