ชลบุรี สาวแสบระดมกว้านซื้อของออนไลน์จากแม่ค้าหอบสินค้าและเงินหนี ผู้เสียหายโร่แจ้งความ (มีคลิป)

เมื่อเวลา16.00น.วันที่ 18 พฤจิกายน 2564ผู้เสียหายจากการถูกฉ้อโกงทางออนไลน์กว่า 30 คนเข้าแจ้งความและร้องเรียนผ่านสื่อมวลชวนประสานงานไปยัง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เนื่องจาก เมื่อประมาณปลายเดือนกันยายน ปี พ.ศ 2564 ผู้เสียหายทั้งหมด ได้ถูก นางสาว (แบม ) หรือ นางสาว สุพัตรา มูลศรีบุตร อายุ 24 ปี (ส่นามสมมุติ) อาศัยอยู่ที่บ้าน(ตามบัตรประชาชน) เลขที่ 100 ม.3 ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่อยู่ปัจจุบัน เลขที่ 246/7 ม.6 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20230 (บ้านสามี)ที่กินอยู่ด้วยปัจจุบัน ได้แอดเฟสบุคเข้ามาในเฟสบุคของผู้เสียหาย ที่ทำการขายของออนไลน์ และ เข้ามาทำความรู้จักสนิทสนม ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ โดยไม่รู้จักกันมาก่อน ต่อมาเธอจึงใช้ความสนิทจากเฟสบุ๊คทำการสั่งของเห็นว่าหน้าเฟสบุ๊คของเธอโปรไฟล์ดี น่าเชื่อถือ จึงทำการส่งของให้ไป เพราะได้รู้จักกันหลายเดือนแล้ว แล ะดูจากโปรไฟล์ของเธอ ก็น่าจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่เป็นรายใหญ่ และ เชื่อถือได้ ดูจากการโพสต์ขายของทางเฟสบุ๊ค มูลค่าหลักหลายล้านบาท แต่ไม่ได้เป็นความจริงอย่างที่เธอได้โพสต์ในเฟสบุ๊ค ทำให้ผู้เสียหลงเชื่อ จึงทำการส่งของให้กับทางนางสาวแบม ต่อมานางสาวแบมได้ปิดเครื่องหนีไป และติดต่อไม่ได้ต่อมาผู้เสียหายจึงโพสน์ตามหาตัวผ่านทางเฟสบุ๊คกับไม่มีคำตอบ แต่ กับมีผู้เสียหายกว่า 30 คนโพสน์ตามหาตัวเช่นกัน จึงคิดว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน จึงรวมตัวกับผู้เสียหายทั้งหมดเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2และตำรวจภูธรภาค2 เพื่อดำเนินคดี และ ช่วยเหลือประชาชนต่อไป

รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านกว่าบาท และ ยังมีผู้เสียหายอีกมากมายที่ยังไม่เข้ามาแจ้งความ และ ร้องทุกข์ คาดว่า น่าจะมีความเสียหาย กว่า 100 คนในประเทศและมูลค่าความเสียหายน่าจะเกิน 10 ล้านบาท

ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 ได้มีคำสั่งเรียกพนักงานสอบสวนทั้งจังหวัดชลบุรี เข้าทำการสอบสวนผู้เสียหายเป็นการเร่งด่วน เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายและได้ฝากบอกประชาชน

หากท่านใดได้รับการฉ้อโกงเหมือนกรณีนี้ ให้สามารถให้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่นั้นๆได้ หากพนักงานสอบสวน มีพฤติกรรม ไม่รับแจ้งความ หรือดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ก็ทำลงโทษทางวินัยทันที หรือสามารถร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนหรือ ตำรวจภูธรภาค2ได้