นนทบุรี วงจรปิด 2 สามีภรรยาขี่จยย. ถูกแท็กซี่เปลี่ยนเลนกะทันหันรับผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัส
1 min readเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายกำพล ใจยั่งยืน อายุ 26 ปี และน.ส.สร้อยฉัตร ธิราชัย อายุ 35 ปี สองสามีภรรยา เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดสำนักงานเขตดุสิต หลังได้รับการร้องเรียนว่าถูกรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับรถตัดหน้ารถจยย. ขณะกำลังขี่รถไปทำงาน จนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณถ.กาจณาภิเษก (ขาเข้า) มุ่งหน้าบางแค ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เวลา 05.00 น. วันที่ 20 พ.ย. 64 แจ้งความไว้ที่สภ.ปลายบาง
ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ ขณะที่รถแท็กซี่เปลี่ยนเลนจากขวามาซ้ายกะทันหัน ทำให้รถจยย.เสียหลักล้มไปชนกับรถบรรทุกที่จอดอยู่ริมทางได้รับบาดเจ็บ
นายกำพล เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ตนออกจากบ้านประมาณ 04.30 น. เพื่อจะไปทำงานที่สำนักงานเขตดุสิต ถึงที่เกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ตนขี่รถจยย.มากับภรรยาอยู่เลนกลาง แท็กซี่อยู่เลนขวา มีผู้หญิงเรียกรถแท็กซี่อยู่ตรงป้ายรถเมล์ทำให้รถแท็กซี่คันนั้นตัดหน้ารถจยย.ของตน ทำให้ภรรยาตนหล่นรถ ตนและรถจยย.ไถลมุดใต้รถหกล้อที่จอดอยู่ข้างทาง แท็กซี่คันนั้นได้ชะลอรถทำท่าเหมือนจะจอดแล้วก็ขับออกไปเลย หลังจากเหตุการณ์นั้นมีเจ้าหน้าที่มูลนิธินำตัวส่งรพ. จากนั้นตนไปแจ้งความที่สภ.ปลายบางและขอดูกล้องวงจรปิด แต่กล้องบริเวณนั้นเสีย จึงได้ไปขอกล้องจากร้านของเก่าบริเวณนั้น ภรรยาตนได้รับบาดเจ็บที่สมองกระทบกระเทือน นิ้วโป้งเท้าข้างขวาหัก ส่วนตนมีแผลถลอกตามร่างกายและเย็บบริเวณข้อศอก จำนวน 4 เข็ม ตอนเกิดเหตุภรรยาตนหมดสติ ส่วนตนรู้สึกตัวอยู่ โชคดีที่ใส่หมวกกันน็อค อยากให้รถแท็กซี่มารับผิดชอบ ตนเจ็บทั้งคู่ หนีไปก็หนีไม่รอด โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา หมอบอกว่ายังระบุไม่ได้ว่าต้องพักฟื้นกี่วันเพราะตัวภรรยาเองต้องไปตรวจและเอ็กซเรย์ตลอด ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่กล้องดูและตามเรื่องให้อยู่ ตนเจ็บและต้องหยุดพักงานไปก่อนทั้งสองคน ส่วนภรรยาต้องไปหาหมอตามนัดเพื่อดูอาการ
น.ส.สร้อยฉัตร กล่าวว่า ตนรู้สึกมึนหัวตลอดเวลา เวลาลุกจะมีอาการบ้านหมุน เวลานั่งหรือนอนก็บ้านหมุน ตนเดินได้แต่เวลาลุกนั่งหรือยืนต้องหยุดซักพักนึง มีอาการปวดหัวอยู่ตลอดเวลาทุกวัน สแกนสมองครั้งแรกหมอบอกว่าสมองช้ำแต่ไม่มีเลือดคลั่ง ถ้ากลับบ้านมีอาการอาเจียนหรือปวดหัวไม่หายอาจจะต้องมาสแกนสมองใหม่อีกรอบ เพราะอาจจะมีเลือดซึมออกมา รู้สึกแย่มากๆ รู้สึกว่าไม่น่ามาเกิดกับเรา ตนอยากให้คนขับแท็กซี่อย่าขับรถโดยประมาทไม่งั้นจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยากให้เขามารับผิดชอบ เขาอาจจะคิดว่าตนเป็นน้อยหรือมากแต่ก็ไม่สมควรหนี ตนเจ็บมากตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย
ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน ผู้สื่อข่าวนนทบุรี