นนทบุรี ไฟไหม้บ้านพญาปี่ผู้สร้างโกศงาช้างถวายพระสังฆราช ภรรยากับหลานเสียชีวิต
1 min readเมื่อเวลา 11.30 น วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ดได้รับแจ้งเหตุ ไฟไหม้บ้านมีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 2 ราย บริเวณบ้านเลขที่ 73/12 หมู่ 1 ถนนสุขาประชาสรรค์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของพญาปี่ผู้สร้างกฎงาช้างถวายพระสังฆราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ดับเพลิงเทศบาลนครปากเกร็ด จำนวนกว่า 20 คันและเจ้าหน้าที่มูล นิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านไม้สองชั้นมีเพลิงลุกไหม้ บริเวณชั้น 2 จำนวนมากเสียหายวอดเกือบทั้งหลัง ต้นเพลิงมาจากบริเวณชั้น 2 พบ ผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อจ่าเอก สุวรรณ ศาสนนันทร์ หรือ พญาปี่ อายุ 60 ปี ปราชญ์ชุมชนแห่งปากเกร็ด อดีตข้าราชการทหารเรือ สังกัดกองดุริยางค์ทหารเรือ ได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอกเป็นแผลพุพอง ทั่วร่างกายเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนภายในบ้านบริเวณชั้น 2 พบหญิงเสียชีวิต 1 รายใกล้กันพบเด็กถูกไฟคลอกอีก1 ราย ถูกไฟคลอกเสียชีวิตอีก 1 รายเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันระดมกำลังฉีดน้ำสกัดและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เข้าตรวจสอบ
จากการสอบสวนทราบว่าภายในบ้านอาศัยอยู่ทั้งหมด 4 คนมีจ่าเอก สุวรรณ ศาสนนันทร์ หรือ พญาปี่ นางวารุณี ศาสนนันทร์ ภรรยา 58 ปี และน้องต้นกล้าเป็นหลาน อายุ 5 ขวบ ตอนเกิดเหตุอยู่ในบ้านกันแค่ 3 คน น้องต้นกล้าอาศัยอยู่กับ ปู่ย่าเนื่องจากพ่อแม่เลิกกัน
สอบถามนางสาว ปรียาภรณ์ ภู่ผาแพรว อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านเล่าว่าตอนแรกเห็นเพลิงไหม้ข้างบนน่าจะลัดวงจรตอนแรกไหม้ แค่นิดเดียว พอเจอลมแรงๆเข้าไปทำให้ไฟกระจายพริบเดียวไหม้ทั้งหลัง ตอนนั้นมองไม่เห็นใครเลยสักพักเห็น พญาปี่ กระโดดลงมาจากชั้นบน ได้รับบาดเจ็บ ถูกไฟคลอก มีผู้เสียชีวิตในบ้าน 2 คน ชื่อยายหมูกับหลานประมาณ 6 ขวบ น่าจะหนีออกมาไม่ทัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรีเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ส่วนประวัติศาสตร์พลเอกสุวรรณ จ่าเอก สุวรรณ เป็นผู้ประดิษฐ์ปี่ขึ้นมาใหม่บริสุทธิ์ มิได้ผ่านการใช้งาน เพื่อใช้เฉพาะงานออกพระเมรุ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ และทดแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยปี่ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่นั้นทำจากไม้มงคล 9 ชนิด จำนวนทั้งหมด 30 เลา ซึ่งจะมอบให้หน่วยงานทั้งหมด คือ ครั้งที่ 1 จำนวน 10 เลา เป็นปี่ไฉนจำนวน 8 เลา เพื่อใช้ในวงปี่ไฉนกลองชนะ ประโคมย่ำยาม และ ปี่ชวา จำนวน 2 เลา เพื่อใช้ในวงบัวลอย และ วงปี่พาทย์นางหงส์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 60, ครั้งที่ 2 จำนวน 8 เลา เป็น ปี่ชวา จำนวน 4 เลา ปี่ใน จำนวน 2 เลา และปี่มอญ จำนวน 2 เลา โดยมอบให้แก่สำนักสังคีต กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 60 และครั้งที่ 3 จำนวน 12 เลา เป็น ปี่ชวา 4 เลา ปี่มอญ 4 เลา ปี่ใน 4 เลา โดยจะมอบให้วงดุริยางค์ไทย 4 เหล่าทัพ ในวันที่ 20 ต.ค. 60 นี้ ทั้งหมดจะใช้ร่วมบรรเลงในงานออกพระเมรุ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จ่าเอก สุวรรณ ศาสนนันทร์ หรือ พญาปี่ แห่งปากเกร็ด เคยถวายปี่ในไม้มะริดประกอบงาช้าง ปี่ พ.ศ. 2536 ได้ซ่อมแซมกล่องงาช้าง ของใช้ส่วนพระองค์ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๔ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวรวิหาร, ทำด้ามตาลปัตร จำนวน 300 ด้าม ถวายในงานออกพระเมรุ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาปริณายก และ ทำพระโกศงาช้าง เพื่อบรรจุอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาปริณายก สำหรับการประดิษฐ์ปี่ใหม่เพื่อใช้ในพระราชพิธี