สลดวันพ่อ! ทั้งครอบครัว นัดกันผูกคอตาย
1 min readสลดวันพ่อ ทั้งครอบครัว นัดกันผูกคอตายหลังถูกนายทุนยึดบ้านและที่ดิน จน 12 ชีวิตไม่มีที่ซุกหัวนอน วอนสังคมช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตามการร้องเรียน ที่หมู่บ้านหนองหาน จ.นครราชสีมา พบนายวิชิต อายุ 70 ปี พร้อมด้วยนางจุ่น อายุ 55 ปี และ น.ส.กัญญา อายุ 47 ปี กำลังจะใช้เชือกคล้องคอ เตรียมที่จะผูกคอตายใต้ต้นมะขามเทศหลังบ้าน ผู้สื่อข่าวจึงได้รีบตะโกนห้ามบอกว่าทุกปัญหามีทางออก
บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ทุกคนพากันร่ำไห้บ่นว่าถูกนายทุนเจ้าหนี้ที่รับจำนองที่ดินรังแก ขับไล่ครอบครัวออกไปจากที่อยู่แห่งนี้ แต่ไม่มีที่ไปเพราะมีที่ดินอยู่ผืนเดียว โดยมีลูก หลาน ที่อายุ 6-7 ขวบ มากอดขาไว้เพื่อปลอบใจ ตา ยาย และป้า ไม่ให้คิดสั้น ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปเจรจาขอให้ทั้งหมดใจเย็นๆ มาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก และได้สอบถามถึงเรื่องราวความเป็นมาของความคับแค้นใจในครั้งนี้
นายวิชิต เล่าว่า ครอบครัวของตนเองนั้น มีสภาพยากจน ปัจจุบันครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งหมด จำนวน 12 คน โดยมีตนเอง ภรรยา ลูกสาว 3 คน ลูกชาย 1 คน เพื่อนลูกสาว 1 คน และหลานๆ อีก 5 คนที่มีอายุตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 11 ปี ปัจจุบันตนเองเป็นโรคหัวใจ
จึงทำงานหนักไม่ได้ มีอาชีพเก็บลูกกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟใกล้บ้าน เพื่อนำมาล้างใส่ถุงๆ ละ 8 ลูก ขายในราคา 100 บาท ในช่วงปกติก็จะเก็บขายได้สัปดาห์ละประมาณ 500-600 บาท แต่ในช่วงโควิด-19 ระบาดไม่มีนักท่องเที่ยวและไม่มีนักกีฬามาเล่นกอล์ฟ จึงทำให้เก็บลูกกอล์ฟไม่ค่อยได้ ส่วนภรรยาก็อยู่บ้านเลี้ยงหลานๆ ลูกชายก็เป็นโรคหัวใจทำงานหนักไม่ได้เช่นกัน จึงรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในหมู่บ้าน ทำให้ตอนนี้มีเพียงตนเองที่ได้เงินเบี้ยคนชรา เดือนละ 600 บาท และเก็บลูกกอล์ฟขายได้บ้างเล็กน้อย ความเป็นอยู่ลำบากมาก
ส่วนเรื่องราวปัญหาในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2559 ตนเองป่วยเป็นโรคหัวใจ ไปรพ.แพทย์ได้นัดผ่าตัดเพื่อทำบอลลูนหัวใจ แต่ไม่มีเงินไปผ่าตัด จึงได้ได้นำโฉนดที่ดินผืนนี้ จำนวน 1 งาน ไปจำนองกับอาจารย์ชายที่สอนอยู่ในวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในพื้นที่โดยได้ตกลงจำนองกันในราคา 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน)แต่ถูกหักค่าดอกเบี้ยไปจำนวน 50,000 บาท ได้เงินมาเพียง150,000 บาท
ซึ่งตนก็ต้องยอม โดยอาจารย์คนดังกล่าวให้ตนเองเซนในสัญญาและต้องได้จ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน โดยสัญญาเอกสารหลักฐานทุกอย่างอาจารย์คนดังกล่าวเก็บไว้ทั้งหมดโดยตนเองต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยประมาณ 7,000 บาท /เดือน เรื่อยมา ซึ่งช่วงแรกๆ ตนเองก็ขอใบเสร็จ แต่อาจารย์คนนี้บอกว่าไม่ให้ ที่แค่ 1 งาน ตนเองไม่อยากได้หรอก คนกันเองช่วยเหลือกันไป ถ้ามีเงินเมื่อไหร่ก็ให้นำเงินมาไถ่ถอนคืนเลย
จนกระทั่งช่วงกลางปีนี้ 2564 ตนเองประสบกับปัญหาโควิด-19 ตกงาน ขาดรายได้ ไม่มีเงินมาจ่ายดอกเบี้ย พอไปเจรจาอาจารย์คนดังกล่าวเพื่อขอหาเงินมาไถ่ถอนคืน อาจารย์คนนี้ก็ไม่ยอม ตอนแรกบอกว่าต้องนำเงินมาไถ่ถอนถึง 400,000 บาท แต่หลังๆ มานี้บอกว่าไม่เอาเงินแล้ว แต่จะเอาที่ดินอย่างเดียว จึงถูกอาจารย์คนดังกล่าว ฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดสีคิ้ว เพื่อยึดที่ดินนี้ไป พร้อมกับข่มขู่ว่าถ้าไม่ออกไปจากที่ดินตรงนี้จะนำรถแบคโฮมาทุบบ้านไล่ที่ภายในเดือนธันวาคม 2564 นี้
นอกจากนี้อาจารย์คนนี้ยังได้ไปหลอกให้ลูกสาวที่อยู่ติดกันจำนองโฉนดที่ดิน 2 งาน ในราคา 90,000 บาท แล้วทำการฟ้องร้องขับไล่จนลูกสาวเครียดหนักกลายเป็นคนเสียสติ ต้องย้ายออกไปอยู่กับญาติที่ต่างอำเภอ อีกทั้งลูกสาวอีกคนที่อยู่ติดกันก็ถูกคนที่รู้จักกันกับอาจารย์คนดังกล่าว อ้างว่า แฟนของลูกสาวที่เลิกกันไปนานเกือบ 20 ปี ได้นำโฉนดที่ดินไปขายให้กับเขา จึงได้ฟ้องศาลขับไล่ลูกสาวออกจากที่อีกราย กลายเป็นว่าตอนนี้ทุกคนกำลังถูกอาจารย์คนนี้ขับไล่ออกจากที่พร้อมกัน ทำให้ไม่มีที่อยู่ สงสารแต่ลูกหลานที่ยังเด็กอยู่ด้วยกันรวม 12 คน จะไปอยู่ที่ไหน
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้ ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสีคิ้ว เลขที่บัญชี 327-0-55652-7 ชื่อบัญชี นายวิชิต โฉสูงเนิน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์โทร 064-0312182 (นายวิชิต)
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ inn news