ผอ.ศบค.ส่วนหน้า ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จชต. ปรับพื้นที่สีฟ้า เตรียมพร้อมเปิดเมืองเป็นของขวัญให้พี่น้องประชาชน
1 min readวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดยะลา ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบค.ส่วนหน้า) เป็นประธานประชุมติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จังหวัดสตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เพื่อให้การบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในเขตพื้นที่ ตลอดจนร่วมหารือการปรับพื้นที่สีฟ้า เตรียมเปิดเมืองรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ โดยมี นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา , นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา , พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า/โฆษก ศบค.ส่วนหน้า ผู้แทนจากหอการค้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนกลุ่มการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบค.ส่วนหน้า) กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดตั้ง ศบค.ส่วนหน้า ขึ้น จากการได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดยะลา มีความพอใจเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามต้องมีการประเมินทั้ง 5 จังหวัด ว่าจะมีการผ่อนคลายกันอย่างไร ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ทาง ศบค.ส่วนหน้า จะสรุปนำเสนอกับ ศบค. ในการพิจารณาปรับระดับสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ขณะนี้ยังไม่มีเข้ามาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้มีการเน้นกับฝ่ายความมั่นคงในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าพื้นที่อย่างผิดกฎหมาย ที่อาจจะนำมาซึ่งการแพร่เชื้อสายพันธุ์โอไมครอนได้ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการช่วยกันสอดส่องดูแลการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายกันด้วย หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทันที นอกจากนี้ ปัจจุบันนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายเปิดประเทศให้เข้ามาแบบไม่กักตัว หรือที่เรียกว่า Test and go แต่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด -19 ด้วยวิธี RT-PCR และมีหลักฐานการได้รับวัคซีนก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วัน หากผลเป็นลบก็สามารถออกจากที่พักได้ เพราะฉะนั้นในการหารือกับที่ประชุมในวันนี้ อาจจะมีการขยายระบบ Test and go มายังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับประเทศมาเลเซียอีกด้วย
ในการนี้ การประชุมติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลการฉีดวัคซีน จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ตลอดจนปัญหา อุปสรรค การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผู้แทนกลุ่มการปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนกลุ่มภาคธุรกิจ และผู้แทนกลุ่มการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหารือ ประสานงานการปฏิบัติกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ภาพ/ข่าว อับดุลหาดี เจ๊ะยอ จ.ยะลา