เร่งเจาะบาดาลโรงพยาบาลปราสาทเตรียมรับวิกฤตน้ำแล้ง
1 min readสำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย นำเครื่องจักรเข้าขุดเจาะบ่อบาดาล 2 บ่อเพิ่ม ให้กับโรงพยาบาลปราสาท เพื่อช่วยเหลือเตรียมการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคของโรงพยาบาล หลังปริมาณน้ำดิบที่ผลิตประปาในพื้นที่มีน้อย ส่วนปริมาณน้ำที่ใช้ในโรงพยาบาลเฉลี่ย 350 ลบ/ม ต่อวัน ปัจจุบันได้รับน้ำประปาเพียง 280 ลบ.ม ต่อวันเท่านั้น
วันนี้ (23 ธ.ค.62) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พล.ต.นำพล คงพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติการช่วยเหลือเตรียมการแก้ไขปัญหาขาแคลนน้ำอุปโภคของโรงพยาบาลปราสาท ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยสำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีนายประภาส ศรีจันทร์เวียง นายอำเอปราสาทและนายแพทย์ประมวล ไทยงามศิลป์ ผู้อำการโรงพยาบาลปราสาท ได้รายงานข้อมูลและสถานการณ์ภัยแล้งและความต้องการในภาพรวมของพื้นที่อำเภอปราสาทและภายในโรงพยาบาลปราสาท
โดยอำเภอปราสาท นับเป็นพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงอีกพื้นที่หนึ่งเรื่องของน้ำประปา เนื่องจากสภาวะฝนทิ้งช่วงตั้งแต่เดือน ส.ค.62 เป็นต้นมา ทำให้เกิดปัญหาแหล่งน้ำดิบในเขตอำเภอปราสาท ที่อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปาในช่วงแล้งที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลกังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำสุวรรณภา ในการผลิตน้ำประปาเพื่อแจกจ่าย ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำสุวรรณภามีปริมาณกักเก็บเพียง 435,000 ลบ.ม จากปริมาณน้ำที่กักเก็บได้ที่ 1ล้าน 5 แสน ลบ.ม.คิดเป็น 29 % ของความจุ คาดว่าจะใช้ได้ถึงเดือนเมษายน ปีหน้านี้เท่านั้น จังหวัดสุรินทร์ได้มีการบูรณาการร่วมกันหาแหล่งน้ำผิวดินสำรองตลอดจนปรับแผนจ่ายน้ำประปาให้ประหยัดมากขึ้น จากเดิม 2,500 ลบ.ม.ต่อวันเป็น 2,000 ลบ.ม.ต่อวัน
พร้อมกันนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ยังได้ติดตามความคืบหน้าการเจาะบ่อบาดาลเพิ่ม จำนวน 2 บ่อ ให้กับโรงพยาบาลปราสาท ซึ่งสำนักงานพัฒนาที่ 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ได้เร่งเข้าดำเนินการเร่งด่วน เพื่อเป็นการเพิ่มน้ำใช้ในห้องไตเทียมและเครื่องซักล้าง รวมถึงการอุปโภคภายในโรงพยาบาลปราสาท เนื่องจากปีนี้คาดว่าภัยแล้งจะมาเร็วกว่าทุกปี
ส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้น้ำและสถานที่ราชการเริ่มได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลปราสาท ซึ่งต้องการใช้น้ำในทางการแพทย์ และอุปโภค สำหรับผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และบุคลากรของโรงพยาบาล จำนวน 1,700 คน ซึ่งมีอัตราใช้น้ำเฉลี่ย 350 ลบ.ม.ต่อวัน ปัจจุบันได้รับน้ำประปาเพียง 280 ลบ.ม.เท่านั้น ซึ่งสำนักงานพัฒนาที่ 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ได้รับการร้องขอให้เข้าช่วยเหลือในการขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่มอีก 2 บ่อ ในการช่วยเหลือเตรียมการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคของโรงพยาบาลปราสาท
ในขณะเดียวกันในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้รับผิดชอบขุดเจาะบ่อบาดาล จำนวน 187 บ่อ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี นครราชสีมา มหาสารคาม ซึ่งจะเริ่มดำเนินการหลังปีใหม่นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำให้กับชาวบ้านในช่วงหน้าแล้งนี้
พล.ต.นำพล คงพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อปัญหาภัยแล้ง ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งปีนี้ภัยแล้งค่อนข้างมาเร็ว คาดว่าจะมีระยะเวลาค่อนข้างยาวนาน ทางรัฐบาลได้มีบัญชาไปที่กองบัญชาการกองทัพไทยให้เข้ามาแก้ไขปัญหา โดยทำการขุดเจาะบ่อบาดาล แล้วนำน้ำบาดาลไปเติมในระบบจัดเก็บน้ำประปาในหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินการไปแล้วกว่า 10 บ่อ โดยจะเน้นในพื้นที่นอกเขตการประปาและชลประทาน เพื่อที่จะใช้น้ำใต้ดินมาทดแทนน้ำประปาที่มีอยู่
โดยในส่วนของภาพรวมปีนี้ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่มีศักยภาพเข้ามาดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล และให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน จำนวน 524 บ่อ ซึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งหน่วยบัญชาการทหารพัฒนารับผิดชอบจำนวน 187 บ่อ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี นครราชสีมา มหาสารคาม ซึ่งจะเริ่มดำเนินการหลังปีใหม่นี้ ในช่วงนี้จะเร่งดำเนินการช่วยให้กับสถานที่ราชการ โดยจะเน้นในโรงพยาบาลแล้วก็องค์การบริหารส่วนตำบล ที่ขาดแคลนน้ำ
ในโรงพยาบาลปราสาท เป็นการดำเนินการเร่งด่วนแรกๆที่ได้รับการร้องขอไป เนื่องจากปัญหาขาดแคลนน้ำที่จะใช้กับโรงพยาบาล โดยขุดเจาะจำนวน 2 บ่อ เพื่อเป็นมาตรการที่จะเตรียมน้ำที่จะใช้ในฤดูแล้งที่จะเข้ามาถึงนี้ เป็นการเสริมให้กับระบบเดิมที่โรงพยาบาลมีอยู่แล้ว