นนทบุรี รวบแล้วโจรคอแห้งจิบน้ำแดงในตู้เย็นวัดขณะขโมยเงินตู้บริจาค 3 ครั้ง
1 min readเมื่อวันที่ 23 ม.ค.65 ที่สภ.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วรพจน์ ฉิมลอยลาภ สว.สส. ร.ต.อ.สุชาติ แสงเดือน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเท่ห์ ไม่มีนามสกุล อายุ 19 ปี เด็กกรมประชาสงเคราะห์ (ไม่เคยทำบัตรประชาชน) พร้อมของกลาง 1. เงินสด จำนวน 10 บาท 2. เสื้อยืดสีดำ จำนวน 1 ตัว 3.กางเกงขายาวสีดำ จำนวน 1 ตัว โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
ภาพจากกล้องวงจรปิดในศาลาเรือนไทย จับภาพหัวขโมยวัยรุ่น 2 คน เดินไปมาดูลาดเลาหลายรอบก่อนจะเปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่มและขนมภายในตู้ และย่องเข้าไปก่อเหตุใช้อุปกรณ์งัดแงะตู้บริจาคที่ติดอยู่หลังรูปปั้นราหูอมจันทร์ ได้เงินไปจำนวนหนึ่ง ก่อนจะหลบหนีไป
พ.ต.ท.วรพจน์ ฉิมลอยลาภ สว.สส. เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ( 22 ม.ค.65 ) พระครูนนทคุณวสุทธิ์ (สมพงษ์ อุตสาหกิจ) อายุ 57 ปี ที่อยู่ 40 ม.7 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าอาวาสวัดบางพูดนอก ได้เดินทางมาแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ดว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน (ตามภาพวงจรปิด) เข้ามาที่โดมทรงไทยข้างโบสถ์วัดบางพูดนอก และได้งัดแงะลักทรัพย์ภายในตู้บริจาคไม้สักจำนวน 2 ตู้ และเอาเงินภายในตู้บริจาคและหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บริเวณภายในซอยสินไพบูลย์ ม.6 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงได้ร่วมกันเดินทางไปทำการตรวจสอบที่บริเวณภายในซอยดังกล่าว ต่อมาพบนายเท่ห์ ไม่มีนามสกุล อายุ 19 ปี (ไม่เคยทำบัตรประชาชน) ลักษณะตรงตามภาพวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม
โดยนายเท่ห์สารภาพว่าว่าตนเองได้ก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาคที่วัดบางพูดนอกไปจริง จึงได้นำตัวนายเทห์ไปตรวจค้นที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยบริษัทสินไพบูลย์ ม.6 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด ที่นายเทห์เช่าอยู่ พบของกลางดังกล่าวอยู่ภายในห้อง นายเท่ห์ แจ้งว่าไม่ได้ก่อเหตุคนเดียวแต่ได้ร่วมกันกับนายสันติหรือจัง มหาทรัพย์สกุล เพื่อนของตน หลังก่อเหตุดังกล่าวได้เงินมาจำนวน 150 บาท และแบ่งกันโดยตนเองได้เงินมาจำนวน 60 บาทเอามาใช้จ่ายทั่วไป
จากการสอบถามนายเท่ห์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหารับสารภาพว่าลงมือขโมยไปทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกที่เกิดเหตุที่เดิมเพราะเพื่อนชวนไปตนจึงไปขโมยเงินพระป่าที่ห้อยไว้ หลังจากนั้นคอแห้ง จึงเดินไปหยิบน้ำแดงของทางวัดมากินกับเพื่อนครั้งที่ 2 ก็ทำเหมือนเดิม และล่าสุดก็ก่อเหตุอีกรอบแต่ได้เงินมาไม่เยอะมาก ที่ทำไปเพราะตนตกงานไม่มีเงินจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ ซึ่งเพื่อนอีกคนที่ทำด้วยกันหนีไปได้ ซึ่งตนและเพื่อนไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน ซึ่งมีการพูดคุยกันและเดินไปขโมยพร้อมกัน ตอนนี้โดนจับแล้วยอมรับผิดครั้งต่อไปจะไม่ทำแล้ว ถ้าพ้นโทษจะอยู่บ้านไม่ออกไปไหน ตอนนี้รู้สึกผิดและอยากขอโทษทางที่วัดมาก ตนจะไม่ทำอีกแล้วและขอโทษทางสังคมด้วยที่ตนทำไปเพราะตกงาน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวนายสันติ หรือจัง มหาทรัพย์สกุล เพื่อนของนายเทห์ที่ร่วมกันก่อเหตุคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ส่วนนายเทห์ ได้นำตัวส่งพนักสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป