ชลบุรี คนร้ายตีเนียนทำทีเป็นลูกค้ามากินก๋วยเตี๋ยวฉวยโอกาสลูกจ้างหันหลังล้างชามรีบกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทวิ่งหนี

ชลบุรี คนร้ายตีเนียนทำทีเป็นลูกค้ามากินก๋วยเตี๋ยวฉวยโอกาสลูกจ้างหันหลังล้างชามรีบกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทวิ่งหนีจนมุมเจอทางตันปีนหลังคาบ้านหนีตำรวจและกู้ภัยล้อมจับนานกว่า 1.30 ชม.แต่ไม่พบ

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ได้รับแจ้งมีคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทของลูกจ้างร้านก๋วยเตี๋ยวภายในซอยดิเรก ต.มะขามหย่ง อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังก่อเหตุคนร้ายวิ่งหนีเจอทางตันปีนขึ้นหลังคาบ้านของชาวบ้าน หลังรับแจ้งรีบนำกำลังออกไปจรวจสอบปิดล้อมและใช้อุปกรณ์ส่องแสงสว่างค้นหาตัวผู้ก่อเหตุจนพบว่านั่งอยู่บนหลังคาบันไดมาปีนดูแต่ก็ไม่พบตัวคนร้าย

จากการสอบถามนายเอก(สงวนชื่อ)พยานที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่าคนร้ายได้เดินถามว่าซอยนี้ไปไหนและไปไหนได้บ้างจากนั้นคนร้ายก็เดินไปเดินมาบริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวจากนั้นเห็นอีกทีก็ได้กระชากสร้อยหนีไปแล้วคนร้ายอายุประมาณ 30-35 ปีสวมเสื้อสีแดงปีนหนีขึ้นบนหลังคา

ทางด้านนางสาวชัชฏา สุทธิมาลย์ อายุ 50 ปีผู้เสียหายเล่าว่าเวลาประมาณ 19.30 น.มีคนมากินก๋วยเตี๋ยว 3 คนตนก็ยังไม่กล้าเอาถ้วยมาล้างโดยคนร้ายก็นั่งมองอยู่พอลูกค้า 3 คนกินเสร็จตนก็เลยได้เดินไปเก็บถ้วยมาล้างจากนั้นคนร้ายก็ฉวยโอกาสตอนที่ตนเผลอหันหลังล้างถ้วยวิ่งมากระชากสร้อยคอทองคำที่คอตนไปน้ำหนัก1บาทแต่พระหลวงปู่ทวดเลี่ยมทองได้ร่วงลงพื้นคนร้ายจึงได้แต่สร้อยคอทองคำไปจากนั้นคนร้ายก็รีบวิ่งหนีชาวบ้านที่ช่วยวิ่งไล่จนไปเจอทางตันแล้วก็รีบปีนหลังคาบ้านหนีจึงได้ช่วยกันแจ้งตำรวจทันที

ด้านนางสาวคำหยาด คำผาสุข แม่ค้าเจ้าของร้านก็เปิดเผยว่าคนร้ายพูดไทยไม่ชัดตอนเดินมาถามตนจากนั้นก็ได้ไปนั่งเล่นจึงไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครตนก็ไม่ทันมองเพราะทำของให้ลูกค้ามารู้อีกทีก็ลูกจ้างโดนกระชากสร้อยไปแล้วแต่พระเลี่ยมทองยังอยู่

ทางด้านตำรวจจะได้สอบสวนผู้เสียหายอีกครั้งและขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อจะได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป