สุรินทร์ สุดยอดกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้าน บริหารจากยอดเงินหลักหมื่นเมื่อ 32 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีวงเงินหมุนเวียนกว่า 26 ล้าน ปันผลสมาชิกทุกปี
1 min readสุรินทร์ สุดยอดกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้าน บริหารจากยอดเงินหลักหมื่นเมื่อ 32 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีวงเงินหมุนเวียนกว่า 26 ล้าน ปันผลสมาชิกทุกปี รับรายละ1-2 หมื่นบาท ให้กับสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ จำนวน 492 คน และสมาชิกร้านค้าชุมชน จำนวน 325 ราย ยอดเงินปันผลกว่า 2 ล้านบาท สวนกระแสเศรษฐกิจยุคโควิค
วันที่ 13 ก.พ.65 ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านคาบเหนือ ม.5 ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ อดีตหมู่บ้านอาสาพัฒนาตนเอง (อพป.) นายประสิทธิ์ ฉายกล้า อดีตกำนันตำบลเทนมีย์ พร้อมด้วยผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์บ้านคาบเหนือ ได้ร่วมกันมอบเงินปันผลประจำปี กลุ่มออมทรัพย์ของหมู่บ้านคาบเหนือ ให้กับสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ จำนวน 492 คน และสมาชิกร้านค้าชุมชน จำนวน 325 ราย ยอดเงินปันผล 2 กว่าล้านบาท
สำหรับกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้านคาบเหนือ นับเป็นกลุ่มออมทรัพย์ตัวอย่าง ที่มีการบริหารจัดการ ดำเนินการอย่างเป็นระบบ รวมถึงวินัยของกลุ่มสมาชิก จึงทำให้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2533 หรือเมื่อ 32 ปีที่ผ่านมา จากการริเริ่มของนายประสิทธิ์ ฉายกล้า อดีตกำนันตำบลเทนมีย์ เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งกำนัน ในขณะนั้น โดยเริ่มจากสมาชิก 77 คน มียอดเงิน 4 หมื่นกว่าบาท บริหารจัดการโดยคณะกรรมการหมู่บ้านที่แต่งตั้งขึ้นมาทำหน้าที่อย่างเป็นระบบ มีประธานกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ คณะกรรมการ การเงิน และสมาชิกช่วยกันดูแลทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบและโปร่งใส มาจนถึงทุกวัน ปัจจุบันมียอดทุนหมุนเวียนมากถึง 26 ล้านบาท และมีการจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกทุกๆปี มากน้อยขึ้นอยู่กับยอดเงินฝากของสมาชิก บางคนได้รับเงินปันผลมากกว่า 1ถึง 2 หมื่นกว่าบาท และปีนี้ยังได้มอบเงินให้กับกลุ่ม อสม.บ้านคาบเหนือ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจอีก จำนวน 1 หมื่นบาทด้วย
ทั้งนี้นอกจากสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์และสมาชิกร้านค้าชุมชนแล้ว ทางกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้านคาบเหนือ ยังได้ผุดโครงการฝากเงินออมสำหรับเด็กๆที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดขึ้นไป สามารถนำเงินมาฝากได้ทุกๆวันเสาร์ เพื่อสร้างรากฐานให้กับเด็ก ให้รู้จักการออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเด็กบางคนมียอดเงินฝากออมมากเป็นแสนบาทก็มี ปัจจุบันมียอดเงินออมของกลุ่มเด็ก จำนวน 2 ล้านกว่าบาท และยังได้รับเงินปันผลเหมือนกับสมาชิกคนอื่นๆด้วย ซึ่งก็ถือว่าประสบผลสำเร็จอีกโครงการด้วยเช่นกัน
นางนภารัตน์ อรุณถาวรธรรม ประธานกลุ่มออมทรัพย์บ้านคาบเหนือ พร้อมด้วยนางสาวพันนิดา วังเวงจิตร เหรัญญิกกลุ่มฯ เผยว่า กลุ่มออมทรัพย์บ้านคาบเหนือ ก่อตั้งมาเมื่อปี พ.ศ.2533 ในตอนแรกมีสมาชิกเพียง 77 คน และมีเงินประกันกลุ่มเพียง 42,000 บาท ผ่านมาถึงปัจจุบัน 32 ปีแล้ว มีสมาชิกจำนวน 492 คน ยอดเงินกองทุนของกลุ่มถึง 26 ล้านบาท หลักการบริหารของกลุ่มจะมีการปล่อยกู้ให้กับสมาชิก โดยมีสมาชิกค้ำประกัน ที่สำคัญคือความซื่อสัตย์ของสมาชิกที่มาส่งทุกเดือนและมีการออมทุกเดือน และจะมีการปันผลทุกปี ในปีนี้ได้มีการปันผลให้กับสมาชิกยอดเงินรวมจำนวน 2,100,000 บาท จริงๆแล้ววัตถุประสงค์ของกลุ่มก็คือช่วยเหลือคนยากจน โดยการพึ่งพาคนรวย คนรวยเอาเงินมาฝาก คนจนสามารถมากู้เงินในอัตราดอกเบี้ยถูก ขณะที่คนจนนำเงินมาฝากก็ได้ดอกเบี้ยในอัตราที่สูง เมื่อเทียบกับการฝากธนาคาร ทำให้ต่างคนต่างพึ่งพิงกัน ทำให้ทุกคนเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้น อีกอย่างคือเรามีระบบที่โปร่งใส เราจะเก็บงบฯตลอด งบฯของเราจะเป็นปัจจุบัน จะได้รู้สถานะทางเงิน เพื่อกันเป็นเงินปันผลเงินออม และสิ่งที่ชาวบ้านสามารถเข้าใกล้กองทุนตัวนี้มากที่สุด คือเราไม่มีค่าทำเนียมในการกู้ สามารถยื่นกู้ไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาเราก็จะเรียกมาทำสัญญา ขอแค่ให้มีคนค้ำ หรือมีหลักทรัพย์ที่มั่นคงนำมาค้ำ ส่วนการเก็บเงินเราจะเก็บดอกพร้อมต้น ใครที่ไม่มีเงินต้นก็ขอให้ได้ดอกมา หรือว่าถ้าอยากให้หมดไวก็สามารถส่งจ่ายทั้งดอกทั้งต้นพร้อมกันได้ เพื่อให้กลุ่มอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างกลุ่มเงินล้าน ที่อื่นชาวบ้านจะไปกู้เงินข้างนอกมาจ่าย มีดอกร้อยละ 3-5 บาท แต่ที่นี่เราให้กู้หมื่นละ 50 บาท สิ่งที่เป็นกำลังใจให้เราคือควาสุข ความสุขที่เห็นทุกคนมีความสุข เมื่อถึงเวลารับเงินปันผลกลับคืนไป อย่างร้านค้าซื้อของเยอะของเราเองเราซื้อไป ที่อื่นเราไม่เคยได้กลับคืน อย่างร้านค้าเราก็จะได้กลับคืนมา กลุ่มออมทรัพย์เหมือนกันเราฝากดอกเบี้ยคืน ถ้าฝากธนาคารก็ได้ดอกเบี้ยประมาณร้อยละ0.48 ต่อปี ของเราได้ร้อยละ 6.4 ต่อปี เราอยู่กันด้วยความเอื้ออาทร ความโปร่งใส และเรามีความมั่นใจในความมีวินัย ความรับผิดชอบของคนบ้านคาบเหนือ ซึ่งหากใครมีปัญหาเรื่องอะไร ก็คอยให้คำปรึกษากัน สำหรับปีนี้ยอดจ่ายคืนของออมทรัพย์ 1,387,873 บาท ร้านค้า 5 แสนบาท นอกจากนั้นยังมีธนาคารข้าว กองทุนเงินล้าน รวมทั้งหมดปีนี้จ่ายเงินปันผลคืน 2 ล้าน 1 แสนบาท
ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มออมทรัพย์ของเด็กด้วย ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆได้รู้จักการออมทรัพย์ และมีเงินเป็นของตนเองในอนาคต ซึ่งได้ดำเนินการมาหลายปีและมีเงินในกองทุนออมทรัพย์แล้วกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งบางคนพ่อแม่เห็นความสำคัญของเงินเพื่อเก็บให้ลูกตั้งแต่เล็กๆเมื่อโตขึ้นก็นำมาออมไว้ให้ จนถึงขณะนี้มีเด็กบางคน มีเงินออมทรัพย์เป็นแสนบาทก็มี สำหรับแนวทางการดำเนินการที่ประสบผลสำเร็จนั้น จะต้องมีกองกลางในการบริหารจัดการ และการบริหารจะต้องเป็นระบบที่ดี สามารถจัดสรรแบ่งให้สมาชิกในสิ่งที่เขาสมควรได้รับ และเงินส่วนหนึ่งก็เป็นกองกลาง อย่างน้อยเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็สามารถที่จะทดแทนกันได้ พอมีกองทุนไว้ชาวบ้านเบิกถอนได้ก็จะสามารถสร้างความเชื่อใจให้กับชาวบ้านได้ สิ่งแรกที่จะต้องทำคือทำอย่างไรให้สมาชิกได้ประโยชน์มากที่สุด
จากจุดแข็งที่ดำเนินการบริหารมาอย่างต่อเนื่อง จนประสบผลสำเร็จ ที่ผ่านมาจากวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้น รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ก็ไม่ส่งผลต่อการดำเนินการของกลุ่มแต่อย่างใด