นครปฐม หลวงพี่น้ำฝน จัดหนักวันมาฆบูชา วอนสื่อเสนอข่าวดีของสงฆ์มากขึ้น
1 min readนครปฐม หลวงพี่น้ำฝน จัดหนักวันมาฆบูชา วอนสื่อเสนอข่าวดีของสงฆ์มากขึ้น ท้าคนดังออกมาพูดบวชแล้วรวยให้มาลองบวชด้วยตัวเอง
หลวงพี่น้ำฝนจัด บวชหมู่วันมาฆบูชา ออกมาจัดหนัก สับ สาป พวกทำลายศาสนา ทั้งพระนอกรีต ไม่นานเจอเวรกรรมแน่ พ้อพระเสียมี 1 เปอร์เซ็นต์ แต่สื่อเสนอข่าวจัดหนักเรื่องเสียทุกวัน อยากให้แบ่งพื้นที่พูดถึงพระดีมานำเสนอในสังคมให้มากขึ้น ส่วนประเด็นมีการพูดว่ามาบวชแล้วรวย ขอเชิญคนพูดมาบวชแล้วจะรู้ว่ารวยจริงหรือไม่ อย่าเหมารวมทั้งหมดว่าบวชแล้วจะรวย
วันที่ 16 ก.พ. 65 ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จัดให้มีโครงการอุปสมบทหมู่ ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เนื่องในวันมาฆบูชา และสถายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่ ในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยมีผู้เข้ารับการอุปสมบทจำนวน 10 คน ซึ่งมีญาติและคนในครอบครัวมาร่วมในพิธีเพื่อเป็นการร่วมงานบุญในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ในพิธีการได้จัดให้มีการปลงผมนาค และพิธีกล่าวขอขมากรรมกราบลาอุปสมบท และแห่นาครอบพระอุโบสถ ก่อนจะมีการอุปสมบท ณ พัทธสีมาภายในวัดไผ่ล้อม ซึ่งบรรยากาศในช่วงเช้ามีเมฆครึ้มไร้แดด กรกะทั่งช่วงเวลา 09.09 น.เป็นช่วงเริ่มปลงผมนาค ได้มีเม็ดฝนตกลงมาประละอองฝน ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมในพิธีต่างรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และถือว่าเป็นมงคลในวันมาฆบูชา ที่จะทำให้ชีวิตอยู่ร่มเย็นเป็นสุข นับจากนี้
โดยหลังพิธีการบวชนาค พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ให้สัมภาษณ์สื่อที่มาติดตามบรรยากาศการจัดงานเนื่องในวันมาฆบูชา โดยมีประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของวงการพระสงฆ์ ที่มีขึ้นหน้าสื่อเป็นข่าวฉาวที่ปรากฏทุกวันในช่วงนี้ โดยกล่าวว่า ตอนนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจจากสถานการณ์ข่าวที่มีแต่เรื่องฉาวในวงการผ้าเหลือง ซึ่งมีพระที่ไม่ดีมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ แต่สื่อก็นำเสนอทุกวัน แต่เรื่องราวที่ดีดีเช่นการจัดให้มีการบวช การช่วยเหลือสังคม เช่นในช่วงการสวดเผาฟรี โควิด-19 กลับนำเสนอน้อยมาก และมีบางสื่อที่เอาข่าวเสียๆ ของพระสงฆ์ ไปนำเสนอเพื่อจะเน้นเอาเรทติ้ง โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เสียหายต่อพระพุทธศาสนา แต่ควรระบุไปเลยว่าใครคนนั้น ๆ ทำอะไรเสีย เช่น ถ้าอาตมาทำอะไรเสียหายให้มาระบุตัวกันไปว่าเรื่องอะไรบ้าง แต่มีบางคนก็ยังพูดโดยรวมไปถึงวงการพระพุทธศาสนา คนอื่นไม่กล้าพูด แต่อาตมากล้าพูดเพราะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
ส่วนประเด็นของเรื่องข่าวหลายๆเรื่องของล่าสุดที่มีพระสงฆ์ไปดื่มเบียร์ นอนหลับในโรงแรม ที่เป็นข่าวรับวันมาฆบูชา ที่จังหวัดชลบุรี โดยเป็นมหา เปรียญธรรม 4 ประโยค บวชเรียนมาแล้วกว่า 20 พรรษา เรื่องนี้ทางวัดไผ่ล้อมไม่ยอมให้มีการเกิดขึ้นแน่น เพราะเวลาจะออกไปไหนจะต้องมีการรายงานเจ้าอาวาสทุกครั้ง และมีการลาอย่างเป็นทางการไปไหน ไปอย่างไร เพื่อะไร เพราะเจ้าอาวาสจะต้องคอยควบคุมดูแล เรื่องนี้ก็น่าจะต้องมาดูเรื่องของการบริหารจัดการเพื่อป้องปรามและกำหนดขอบเขตให้ได้
“ สำหรับเรื่องมีประเด็นที่มีคนดังออกมาวิจารณ์ว่า ในยุคปัจจุบันคนที่มาบวชพระเพราะหวังรวย เรื่องนี้ถ้าบวชจริง ๆ แล้วมารวยก็ไม่เคยเจอ แต่อาตมาบวชแล้วรวยจริง มีร่วมพันล้าน แต่ไปอยู่ที่ไหนก็ไปอยู่ที่โบสถ์ วิหาร การช่วยเหลือสังคมที่อยู่รอบๆ การมอบเตียงผู้ป่วย การให้โรงเรียนอยู่ที่สาธารณสงเคราะห์ทุกรูปแบบ ซึ่งแบบนี้รวยจริงแต่รวยบุญกุศล คนที่บอกว่าบวชแล้วรวยให้มาลองบวชดูว่าจะรวยหรือไม่ ไม่ใช่พระจะมาแบมือของเงินก็เป็นไปไม่ได้ และบวชแล้วรวย รวยยังไง เพราะไม่เคยเห็น พระรูปไหนรวยอย่างไร ให้ไปตรวจสอบประวัติ กันได้ นี่คือสิ่งที่สำคัญ” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ปลงแล้วเรื่องความอยากมี อยากเป็นอยากได้ เพราะทำงานอยู่กับการส่งเสริมพระพุทธศาสนา คือจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ จะสูงจะต่ำอยู่ที่ทำตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาดหวังว่าจะให้เกิดขึ้นในสังคม ส่วนใครที่เข้ามาทำลายให้ศาสนามัวหมองก็มองว่าเป็นการสร้างเวรกรรม และไม่ช้าไม่นานสิ่งที่กระทำไว้ก็จะมาเกิดกับตัวเองแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ส่วนพระที่บวชในวันนี้อาตมาก็ยินดีตอบรับไม่ว่าจะบวชกี่วันถือว่าดีหมด โดยคนที่มาบวช หลายคนก็พบแต่ทุกข์มาทั้งนั้นการได้มาบวชก็เหมือนกับการตั้งหลัก เพื่อให้ชีวิตขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ส่วนเขาบวช 5 วัน 10 วัน เห็นว่าดีสงบก็จะบวชอยู่ต่อก็ยินดี ซึ่งการมาบวชที่วัดไผ่ล้อมนั้นต้องมีการปฏิบัติเคร่งครัด คือต้องสวดบทธัมมจักกัปปวัตนสูตรได้ ซึ่งการสวดมนต์คือการทำให้เรามีสติปัญญา มีสมาธิ เพื่อนำไปใช้ประกอบกับชีวิตประจำวันได้
ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม