นนทบุรี แม่ค้าตลาดปากเกร็ดโวยเงินกองทุน 88 ล้านบาทเหลือ 844 บาท
1 min read
วันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่สภ. ปากเกร็ด นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา พร้อมด้วยนางรพีพรรณ เพิ่มพูน (ครูแต้ว) อายุ 81 ปี ข้าราชการบำนาญ นายสิทธิศาสตร์ รักษ์ม่วงศรี ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ผู้จัดการสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 นายมานะ รัตนวิเชียร ผู้รับมอบอำนาจ และตัวแทนพ่อค้าแม่ค้า ตลาดสดพิชัยจำนวน 5 รายเดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าของคดี กับทางพันตำรวจเอก พงศ์จักรปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด โดยมีการประชุมพูดคุยกันนานกว่า 2 ชั่วโมงยังไม่ได้ข้อสรุป
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.พ.65 ที่กองทุนชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 (ตลาดพิชัยปากเกร็ด) ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดพิชัย นับร้อยคนรวมตัวเข้าทวงถามสิทธิ์ ที่พ่อค้าแม่ค้าแต่ละคนนำเงินเข้าไปฝากกับกองทุน ซึ่ง3-4 เดือนที่ผ่านมา ทางพ่อค้าแม่ค้าถึงถอนเงินไม่ได้จึงได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่และได้คำตอบว่าทางกองทุนไม่มีเงินที่จะให้ถอนและเป็นที่คาใจกับพ่อค้าแม่ค้าแต่ละคนว่าเงินที่พ่อค้าแม่ค้าแต่ละคนฝากเข้าไปมันหายไปไหนหมด และที่ผ่านมาก็ได้ตรวจสอบดูแล้วว่าเงินทั้งหมดในกองทุนมีอยู่ 88 ล้านบาท แต่ทุกวันนี้เงินในกองทุนเหลือเพียง 844 บาทเท่านั้นยิ่งเป็นที่คาใจกับคนที่เอาเงินเข้าไปฝาก และช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการ ผู้บริหารชุดเก่าทั้งหมด 12 คนได้หมดวาระในการทำงานและได้ออกไปหมดแล้ว และคณะกรรมการชุดใหม่ได้เข้ามารับหน้าที่แทน จึงได้เข้ามาทวงถามว่าเงินจะถอนได้เมื่อไหร่เพราะพ่อค้าแม่ค้าแต่ละคนเดือดร้อนเหมือนกันเงินตัวเองแท้ๆแต่กับถอนไม่ได้ ต่อนายสิทธิศาสตร์ รักษ์ม่วงศรี ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ผู้จัดการสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ 2 ที่พึ่งมารับตำแหน่งในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ออกมาชี้แจงกับกับพ่อค้าแม่ค้า และได้อธิบายเรื่องที่มาที่ไปของการเงินว่าเงินได้ปล่อยกู้ออกไปและยังเก็บเงินกับมาไม่ได้ เพราะเป็นช่วงโควิดและเงินในกองทุนในเวลานี้ไม่มีแต่ก็สัญญาว่าจะนำเงินกับมาให้พ่อค้าแม่ค้าทุกคนให้ได้แต่ต้องขอเวลาหน่อยแต่การเจรจาก็ไม่เป็นผล
ทนายโป้ง กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนมาจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดปากเกร็ดเรื่องเอาเงินไปลงกองทุนกับปากเกร็ดแล้วเกิดปัญหาที่ไม่สามารถถอนเงินได้ มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่เห็นว่าล่าช้าเลยให้ตนมาช่วย ได้มาพบกับผู้กำกับก็ได้มีการติดตามสอบถาม ตอนนี้ได้มีการเรียนกรรมการกองทุนชุดปัจจุบันและชุดเก่าเข้ามาพบและสอบปากคำ และชี้แจงกับตัวแทนว่ามีปัญหาติดขัดอะไรบ้าง พนักงานสอบสวนก็จะสอบสวนในฐานะพยานและมีหมายเรียกบุคคลทั้งกรรมการชุดเก่า และชุดปัจจุบันรวมถึงผู้จัดการ และประธานเอง ทั้งบุคคลที่คอยดูแลอยู่ทั้งธนาคารออมสินและผู้ตรวจสอบบัญชีของจังหวัดเพื่อมาค้นหาปัญหาว่าเกิดอะไรกับกองทุนนี้ ทำไมถอนเงินไม่ได้ มีการยักยอก ฉ้อโกงเอาเงินออกไปหรือเปล่า ประเด็นที่น่าสงสัยคือเรื่องดอกเบี้ยที่มีส่วนต่างกัน 10% ว่าคุณไปปล่อยกู้ยังไงถึงเก็บดอกเบี้ยไม่ได้ แล้วเป็นหนี้เสียไปติดตามกันหรือเปล่า สิ่งที่ไม่ตรงคือตัวเลขและตัวเงิน การจะเบิกเงินจากธนาคารก็ต้องมีคนที่เซ็นเช็คได้ มีหลายอย่างขัดแย้งกันอยู่ ต้องดูว่าทั้งกรรมการชุดเก่าและชุดใหม่มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า และมาสืบสวนหาผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะยักยอก ฉ้อโกงต่างๆที่ผิดจากวัตถุประสงค์ของกองทุน อาจจะเกิดจากความไว้เนื้อเขื่อใจเลยปล่อยให้กรรมการบริหารไปโดยไม่ตรวจสอบ เท่าที่ทราบคือกรรมการชัดก่อนมีการเอาอกเอาใจกับผู้ฝากเงิน ทั้งเลี้ยงโต๊ะจีน พาไปเที่ยว มีโบนัส สมัยก่อนคนนำเงินมาฝากจนกองทุนต้องบอกว่าให้พอ เพราะเงินเยอะแล้ว แต่ช่วงหลังทุกคนจะถอนออกหมดเพราะมันผิดปกติ จังหวัดก็ไม่มาดูแล หน่วยงานที่ขึ้นตรงก็ไม่มาดูแลให้ ไม่ทำตามระเบียบ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่บกพร่องเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจเกินไปจนไม่มาตรวจสอบ เป็นช่องว่างทำให้คนคิดไม่ดีไม่ซื่อเงินรั่วไหลออกไป ทุกคนเสียหายหมดยอด 80 กว่าล้านบาท คงเหลือแค่ 80 กว่าบาท ช่วงนี้เกิดโควิดอีกแล้วตลาดจะปิดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เงินที่เขาฝากไว้เฉลี่ยบัญชีละล้าน บางคนถึง 2 ล้านก็มี พวกนี้เก็บกับเขาวันละพัน ผิดหรอที่เขาจะมีเงินล้าน ฝากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ลงมาดูตรวจสอบชาวบ้านเขาเดือดร้อน
นางรพีพรรณ เพิ่มพูน (ครูแต้ว) กล่าวว่า ตนมีความเชื่อมั่นตั้งแต่ก่อตั้ง ประธานคนเก่าทราบเป็นคนดี และตนก็เป็นคนเก่าเพราะอายุ 81 ปีแล้ว ตนมีความเชื่อมั่นมาก เพราะมันดีมาตลอด ผู้จัดการ กรรมการครบชุด ไม่ขาดกระท่อนกระแท่นเหมือนปัจจุบัน คือเราฝากหวังได้ดอก ถ้าจะเบิกก็ได้ปกติไม่มีปัญหา ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี เป็นการสนับสนุนประธานคนเก่า เพราะตลาดเพิ่งตั้ง กองทุนเพิ่งตั้งพวกเราเป็นคนปากเกร็ด ก็สนับสนุนเพื่อให้เขานำเงินไปออกดอกออกผล และหวังดอกผลจากเขาส่วนหนึ่ง ทีแรกทำอะไรก็สะดวกง่ายไม่มีปัญหา ปัจจุบันมันมาสะดุดตอนโควิด ช่วง 2-3 ปี เพราะเงินมันไม่มี ที่ความมันแตกตนเดาว่าเพราะพวกต่างขาติหรือต่างด้าวที่เข้ามาทำงาน พวกลูกจ้างก็นำเงินมาฝากมีเท่าไหร่ก็นำมาเพื่อจะเก็บให้ลูกเมียที่ต่างประเทศ พอถึงเวลาโควิดตลาดหยุดเขาก็จะกลับบ้านและเบิกเงินตรงนี้เพราะเขาสะสมไว้ พอไปเบิกก็ไม่ได้ ผลัดแล้วผลัดอีก รู้สึกกรรมการในนี้ก็ปั่นป่วนตอนหลังซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องของตน ตนมีหน้าที่คือเขาให้ก็ให้ เขาให้เราหน่อยตนก็รอเพราะตนก็พอมีอยู่บ้าง ตนฝากไว้ประมาณเกือบ 2 ล้าน เป็นเงินของลูก ตนฝากไว้ทีแรกและไม่ชอบกรรมการเลยถอนตัวออก แต่ลูกเขาก็มาฝากกัน คนนึง 700,000 บาท คนนึง 600,000 บาท และอีกคนนึง 300,000 บาท รวมกันเกือบ 2 ล้าน ถอนไม่ได้เลย ตนไม่รู้จะทำยังไงเลยต้องมาพึ่งทนายกับผู้กำกับ ท่านก็ให้ความร่วมมืออย่างดี และหัวหน้าพรรคก้าวไกลคือดร.ไพบูลย์ท่านก็มีพ่อแม่คนเก่าแก่ที่ปากเกร็ด ตนมาถึงรุ่นลูกก็มารู้จักตน ตลาดปากเกร็ดก็รู้จักกันเพราะส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์กัน ตอนนี้ได้รับผลกระทบมากเกือบ 100% มีที่ลงชื่อ 150 ราย มีมากมายและที่ไม่รู้อีก ที่จดๆไว้มี 104 คน เงินรวมกัน 89 ล้าน ตอนนี้เหลือ 88 บาท คนโกงในนี้มันต้องมีแน่นอน ตนไม่เคยถามมีแต่เขาปฏิเสธและผลัดผ่อนตน แต่พวกต่างชาติเขาก็ไมได้เงินตสมที่อยากได้เลยเกิดการรับรู้ว่าสถาบันนี้เกิดปัญหาแน่นอนแล้วเพราะพวกต่างด้าวเขาโวยวายขึ้นมาไม่งั้นตนก็ไม่รู้จนเพื่อนฝูงมาบอก ตนเหลืออยู่ไม่กี่หมื่นแต่ของลูกชาย 2 คนและเมียเขาด้วย เกือบ 2 ล้าน ก็ไม่ได้เลย ตนไม่อยากจะทำอะไรเขาเพราะเป็นมนุษย์มีเมตตาอยู่แล้ว ถ้าเขาชี้แจงและประสานให้เราให้มันคล่องสะดวกหน่อยก็จะได้รู้จุดว่าไปมายังไง อาจจะได้คืนบ้างก็ยังดี ตนเป็นประชาชนธรรมดาไม่รู้กฎหมายอาจจะต้องพึ่งให้ทนายช่วย จะติดคุกติดตารางตนไม่ทราบ มีความหวังแค่อยากได้เงินคืน นี่ก็กำลังแตกกันแล้วตนได้ยินแล้วส่ายหัวเลยว่ากรรมการชุดนี้มันแตกกันแล้ว ในกลุ่มต้องมี 6-7 คน แต่ตอนนี้มีแค่ 2-3 คน เงินแต่ละบาทก็ของพ่อค้าแม่ค้าทั้งนั้น กว่าจะได้มาแต่ละบาท เขาฝากไว้เพื่อหมุนมาใส่ร้านนี่คือเป้าหมายของพวกเราเพราะตลาดนี้คือตลาดใหญ่ ส่วนตนไม่ค่อยมีปัญหาแต่ลูกเขามีปัญหาเพราะเขามีลูกเค้าต้องใช้เงิน