พิจิตร วัดหลวงพ่อเงินบางคลานม็อบกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายบุกยึดวัด70วันปิดประตูฝ่ายตรงข้ามห้ามเข้า
1 min read
เมื่อกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองไม่แตะต้องทำให้ม็อบเหิมเกริมบุกยึดวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ปิดประตูคล้องโซ่ใส่กุญแจยืดเยื้อ70วันแล้ว ประกาศชัดเจนรักษาการเจ้าอาวาสที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องถือเป็นฝ่ายตรงข้ามห้ามเข้ามาในวัด ล่าสุดบังคับคดี-ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-อส. ยกทีมกว่า 100 คน ถือคำพิพากษาบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลฎีกายังต้องขอร้องขอเข้าวัด สุดท้ายม็อบยินยอมให้เข้าแค่ 10 คน จากเหตุดังกล่าวส่งผลการท่องเที่ยวจังหวัดพิจิตรพังยับ
วันที่ 21 มีนาคม 2565 นายสุพจน์ รัตนรุ่งเรือง รักษาการนายอำเภอโพทะเล , พ.ต.อ.วัชรเกียรติ ศิริวิมลฤทธิ์ ผกก.สภ.โพทะเล , นางวลัชณัฏฐ์ กุลสิริอิทธิกร ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดพิจิตร, นางสาวอนันยา เจียมศรีพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกำลังฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-อส. ยกทีมกว่า 100 คน ถือคำพิพากษาบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลฎีกา เพื่อจะปฏิบัติตามคำพิพากษาบังคับคดีที่ให้จำเลยที่ 1 คือ พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาส หลวงพ่อเงินบางคลาน ให้ส่งมอบสมุดคุมบัญชีทรัพย์สินรายรับ-รายจ่าย , พัสดุเอกสาร , สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร , บัญชีการจำหน่ายวัตถุมงคลของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานให้แก่โจทก์ คือ พระครูพิสุทธิวรากร ซึ่งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ที่ได้รับการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎหมายของคณะสงฆ์ ห้ามจำเลยทั้ง 10 คน ขัดขวางการดำเนินกิจการของวัดริรัญญารามและกิจการคณะสงฆ์ห้ามเปิดตู้บริจาคใช้เงินทุกตู้ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดจากรายได้หรือกิจการภายในของวัด โดยบังคับคดีได้ไปพร้อมกับตัวแทนของโจทก์ , ทนายความของโจทก์
แต่ปรากฏว่าเมื่อคณะดังกล่าวไปถึงบริเวณประตูทางเข้าของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ปรากฏว่ามีกลุ่มม็อบกว่า 100 คน ที่อยู่ภายในวัดได้ทำการปิดประตูทางเข้า-ออก ของวัดด้วยการคล้องโซ่และใส่กุญแจประกาศห้าม-ขัดขวาง โดยอ้างรายงานกระบวนพิจารณาของศาลฉบับลงวันที่ 9 มีนาคม 2565 ที่ว่าให้โจทก์หรือผู้แทนโจทก์ ทนายโจทก์ , จำเลยที่ 1 หรือผู้แทนจำเลยที่ 1 , ทนายจำเลยที่ 1 และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ-ตำรวจ-เจ้าหน้าที่ที่บังคับคดี ร้องขอให้มีสิทธิเข้าไปในกุฎิอดีตเจ้าอาวาสที่จำวัดอยู่เท่านั้น ซึ่งต้องเจรจากันอยู่นานฝ่ายม็อบที่ยึดวัดบางคลานจึงยินยอมให้ฝ่ายของรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเข้ามาได้แค่ 10 คน เพื่อเข้าไปตรวจทรัพย์สินตามคำพิพากษาบังคับคดีของศาลฎีกาแต่ต้องเดินลอดเข้าทางช่องประตูเล็ก โดยฝ่ายผู้ชุมนุมไม่ยอมให้เปิดประตูใหญ่ทั้งๆที่ พระครูพิสุทธิวรากร ซึ่งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน พร้อมด้วยลูกศิษย์และชาวบ้านรวมถึงนักท่องเที่ยวจะขับรถเข้าไปในวัดทางประตูใหญ่ก็เข้าไม่ได้ จึงมิได้เข้าไปภายในวัด เพราะม็อบที่ยึดวัดไม่ยอมให้เข้า โดยในกลุ่มม็อบดังกล่าวก็มีบุคคลบางส่วนอยู่ระหว่างการถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกวัดบางคลานก็มาร่วมขัดขวางไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่พวกของตนเข้าไปในวัดด้วยเช่นกันทั้งๆที่มีตำรวจ-อส.-ปกครอง นับร้อยยืนอยู่ก็ตาม แต่ไม่ทำอะไรกับฝูงชนกลุ่มนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ากลุ่มม็อบที่ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายได้เข้ายึดวัดหลวงพ่อเงินบางคลานมาตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. 65 นับจนถึงวันนี้เกือบ 70 วันแล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะล่าถอย รวมถึงฝ่ายปกครอง-ตำรวจ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะบังคับใช้กฎหมายหรือดำเนินคดีอย่างจริงจัง ทั้งๆที่ผู้เสียหาย คือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานก็ได้ส่งกรรมการของวัดไปแจ้งความที่ สภ.โพทะเล แล้ว อีกทั้งวันนี้ก็เป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้าแต่ก็ยังคงลอยนวล ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวของกลุ่มที่ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายด้วยการบุกยึดวัดหลวงพ่อเงินบางคลานในครั้งนี้ยาวนานมากว่า 2 เดือนแล้ว ทำให้บรรยากาศการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรพังย่อยยับไปเพราะเหตุการณ์ดังกล่าว
ทีมข่าวภูมิภาคจังหวัดพิจิตร รายงาน