เจอแล้วสาวหาย 1 ปี ระบุมีปัญหาส่วนตัวไม่อยากพบใคร
1 min read
สาววัย 23 ปี ชาวอ.บ้านด่าน บุรีรัมย์ ที่ขาดการติดต่อกับครอบครัวและลูกนานร่วมปี หลังไปทำงานที่ปทุมธานี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวโทรกลับบ้านเองหลังปรากฏเป็นข่าว แจ้งกับพี่สาวว่ามีปัญหาส่วนตัวเรื่องหนี้สินไม่อยากให้ครอบครัวรับรู้ จึงตัดสินใจไม่ติดต่อกับใคร แต่ยังปิดบังเรื่องที่อยู่กับแม่และพี่สาว
วันที่ 23 เม.ย.65 หลังจาก นางกี่ ดาทอง อายุ 55 ปี อยู่เลขที่ 5 หมู่ 9 บ้านกระชาย ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนผ่านสื่ออยากให้เป็นกระบอกเสียง ช่วยติดตามหา น.ส.สาวิตรี หรือจ๋า ดาทอง อายุ 23 ปี ลูกสาว ที่บอกกับแม่ว่าจะไปทำงานที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อประมาณ2 ปีที่ผ่านมา โดยระหว่างที่ไปทำงานได้โทรศัพท์ติดต่อกับลูกสาวตอนนั้นวัย 2 ขวบ และครอบครัวเป็นประจำ และเมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมาได้ขาดการติดต่อกับครอบครัวกับลูกสาวอย่างสิ้นเชิงทั้ง Facebook และ LINE ไม่เคลื่อนไหวโทรศัพท์ติดแต่ไม่มีใครรับสายจนต้องไปแจ้งความไว้ที่ สภ. บ้านด่าน จนครอบครัวคิดว่าจ๋าน่าจะเสียชีวิตแล้วแต่ยังแปลกใจที่โทรศัพท์ยังโทรติดตลอดทุกครั้ง แต่ไม่มีใครรับสายทุกหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้าไปหา จึงนำมาสู่การร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อให้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก นส.ฐิติมา ดาทอง อายุ 31 ปี พี่สาวของจ๋า ว่าเมื่อเวลา 14.00น. วันนี้น้องสาวได้โทรศัพท์กลับมาหาแล้วพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุที่ไม่ติดต่อกับครอบครัวเนื่องจากมีปัญหาหนี้สินส่วนตัวหลายเรื่องแทบจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ รวมทั้งหนี้สินที่ถูกบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องร้องกว่า 1 แสนบาท ครั้งออกรถบิ๊กไบค์ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อปี63 จึงตัดสินใจไม่ติดต่อกับครอบครัวหรือคนที่รู้จักเพราะไม่อยากให้รับรู้ถึงความทุกข์ใจของตนเอง
นส.ฐิติมา บอกว่าสิ่งที่เป็นห่วงในตอนนี้คือสภาพจิตใจของน้องสาวเกรงจะคิดไม่ดีกับตัวเอง เพราะตอนที่โทรมาน้องบอกว่ายังทำงานอยู่ที่จังหวัดนครปฐม แต่ข้อมูลของตำรวจระบุว่าน้องสาวไปทำงานที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
ด้านนางกี่ ดาทอง แม่จ๋า เล่าว่ารู้สึกดีใจ และน้อยใจ หลังทราบข่าวว่าลูกสาวโทรศัพท์มาพูดคุย กับพี่สาว ส่วนตัวมีความรู้สึกเสียใจ ที่ลูกไปมีครอบครัวที่จังหวัดสุพรรณบุรี แล้วไม่ติดต่อมาที่บ้าน ทิ้งลูกสาววัย 4 ขวบ ไว้ให้ โดยอยากจะฝากบอกกับลูกสาวว่า ไม่ต้องมาหาแม่ก็ได้ แต่อยากให้จ๋ากลับมาหาลูกบ้างเนื่องจากหลานนอนร้องไห้ถามหาแม่ทุกคืน ส่วนตัวตอนนี้ไม่คิดถึงและไม่อยากจะกอดลูกสาวแล้ว และฝากขอบคุณ พ.ต.อ ชูสิทธ์ หล่อแสง ผกก.สภ.บ้านด่าน ที่ช่วยประสานสืบหาข้อมูลของลูกสาวจนทราบว่ายังมีชีวิตอยู่
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวจังหวัดบุรีรัมย์