รมว.แรงงานเปิดงานสงกรานต์ ทต.เหมือง ปลื้มใจองค์การอนามัยโลก WHO ยกย่อง กระทรวงแรงงานไทยสามารถควบคุมโควิดได้มาตรฐาน ทั่วโลกควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

รมว.แรงงานเปิดงานสงกรานต์ ทต.เหมือง ปลื้มใจองค์การอนามัยโลก WHO ยกย่อง
กระทรวงแรงงานไทยสามารถควบคุมโควิดได้มาตรฐาน ทั่วโลกควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 เมษายน ที่เทศบาลตำบลเหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดงานโครงการผู้สูงอายุ ประจำปี 2565 และเทศกาลวันสงกรานต์ โดยมีนายสุรเชษฐ์ ศรีสำอางค์ นายกเทศมนตรีตำบลเหมือง นายบุญลือ ศรีสำอางค์ ที่ปรึกษายุทธศาสตร์เทศบาลตำบลเหมือง ว่าที่ ร.ต.สถาพร วงษ์นาคสกุล เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลเหมือง ประชาชน รวมทั้งผู้สูงอายุกว่า 300 คนให้การต้อนรับ ในการจัดงานครั้งนี้ได้มีการมอบข้าวสารผู้สูงอายุคนละ 15 กิโลกรัม พร้อมพัดลมเพื่อใช้ในช่วงหน้าร้อน สร้างความดีใจให้กับผู้สูงอายุที่ได้รับแจกข้าวสารและพัดลงในครั้งนี้อย่างมากมาย ต่อมานายสุชาติยังได้รดน้ำขอพรผู้สูงอายุอีกด้วย

หลังจากนั้น นายสุชาติได้กล่าวถึงกรณีที่ WHO หรือองค์การอนามัยโลกได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับมาตรการที่กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 อย่างได้ผล และยังส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทยว่า องค์การอนามัยโลกได้ชื่นชมรัฐบาลไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงาน โดยมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเดินทางมาพบกระทรวงสาธารณสุขก่อน และยังพบว่าประเทศต่างๆทั่วโลกเศรษฐกิจตกต่ำลง หลังจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งที่ประเทศไทยได้มีการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เหมือนกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก แต่ปรากฏว่าทำไมประเทศไทยถึงมีการส่งออกสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า กระทรวงแรงงานได้ลงไปทำในเรื่องแฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์ (Factory Sandbox) เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐศาสตร์ ควบคู่ไปกับสาธารณสุขในโรงงาน เช่น โรงงาน 1 พันคนได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงแรงงานดำเนินโครงการแฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์ ซึ่งหมายถึงหากเจอ 100 คนติดไวรัสโควิด-19 ให้นำตัวไปรักษา เหลืออีก 900 คนนำไปฉีดวัคซีนตามมาตรา 33 และให้ทำงานต่อไป โดยโรงงานไม่หยุดการทำงาน ทำให้ไม่มีเหตุผลในการปิดโรงงาน และสามารถทำงานต่อไปได้

ส่งผลให้เมื่อโรงงานไม่ปิด ทำให้คนงานไม่ตกงาน ออเดอร์ต่างประเทศที่สั่งมา ก็สามารถผลิตต่อไปได้ จึงได้อธิบายให้เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกได้เข้าใจ หากมองดูประเทศต่างๆ อาทิ อินโดนีเชีย มาเลเชีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย จะเห็นว่าการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องปิดโรงงาน ส่งผลให้ประเทศอเมริกา และประเทศต่างๆในยุโรป จึงได้สั่งให้ประเทศไทยเพื่อการผลิตขึ้นมา ส่งผลให้ผลประกอบการบางบริษัท สามารถจ่ายโบนัสหลายเท่าของเงินเดือน อาทิ บริษัทเดนโซ่ บริษัทฮอนด้า บริษัทโตโยต้า จ่ายโบนัส 7-8 เท่า เนื่องจากผลของการส่งออกโตมากขึ้นกว่า 11 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกประมาณ 2.7 แสนล้านเหรียญ มูลค่าประมาณ 9.9 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงมาก

องค์การอนามัยโลก จะได้นำเรื่องการประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการโรงงานต่างๆ ในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิดนำไปเผยแพร่ทั่วโลกว่า การแก้ไขปัญหาในเรื่องโรคระบาดนั้น ไม่ใช่แต่จะแก้ในเรื่องโรคระบาด แต่ควรจะเดินคู่กันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งระบบเศรษฐศาสตร์ เมื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว หากไม่เดินควบคู่กันไประบบเศรษฐกิจเมื่อไหร่จะได้มีการฟื้นตัว

นอกจากนี้ทางองค์การอนามัยโลกยังได้มีการชื่นชมในการแก้ไขปัญหาการระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ที่ จ.สมุทรสาคร ที่แก้ปัญหาได้ในระยะเวลา 2 เดือน โดยขออนุญาตนายกรัฐมนตรีให้นำแรงงานใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน โดยให้นายจ้างเอาเข้าระบบภาษี ระบบประกันสังคมให้หมด เพื่อไม่ให้หลบหนีไปไหน หากมีการจับกุมในช่วงนั้น อาจจะเกิดเหตุการณ์ผึ้งแตกรัง เพราะแรงงานจะต้องเดินทางออกต่างจังหวัด เชื้อไวรัสโควิด-19 อาจจะแพร่กระจายไปมากกว่า 70 จังหวัด หรือทั่วประเทศ ทำให้ได้รับการชื่นชมอย่างมากมาย

รวมทั้งยังได้ชื่นชมนายกรัฐมนตรีความเข้มแข็งของ ศบค.ในฐานะเป็นผู้อำนวยการ และยังให้ความสำคัญกับประเทศไทยที่ฉีดวัคซีนให้กับทุกคนทุกเชื้อชาติ ถือว่าเป็นข่าวดีของพี่น้องประชาชนคนไทย นอกจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ยังได้โทรศัพท์พูดคุยเกี่ยวกับภาพพจน์ที่ทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีความเข้มแข็ง ในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เช่น บริษัท มินิแบ มีพนักงาน 38,000 คน ได้มาขอบคุณในการทำโครงการแฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์ ทำให้ธุรกิจที่มีอยู่ในต่างประเทศ 22 แห่ง มีที่ประเทศไทยแห่งเดียวที่มีกำไร รวมทั้งซีโอที่ประเทศญี่ปุ่น จะมาลงทุนที่ประเทศไทยอีก 3,000 ล้านบาท และยังชื่นชมที่ประเทศไทยมีความแข็งแรงในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และช่วยเหลือนักลงทุน โดยเฉพาะกระทรวงแรงงานได้มีการประสานงานร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข ทำให้องค์การอนามัยโลกชื่นชมการทำงานของประเทศไทย

ภาพ/ข่าว สมยศ วงสุดาวรรณ จ.ชลบุรี