บุรีรัมย์ เดินหน้าส่งเสริมปลูกกระท่อม มั่นใจสร้างรายได้ให้รากหญ้า
1 min read บุรีรัมย์ เดินหน้าส่งเสริมปลูกกระท่อม มั่นใจสร้างรายได้ให้รากหญ้าหลังรัฐเดินหน้าส่งเสริมให้เกษตรกร ปลูกกระท่อม ครอบครัวละ 5-10 ต้น ระบุ 8-10 เดือน เก็บใบกระท่อมได้ ขายให้กับบริษัทในราคาประกันที่รับซื้อใบ กก.ละ 80-200 ตามราคาขึ้นลง เชื่อชาวบ้านจะมีรายได้ เดือนละ กว่า 5,000 บาท ชี้หากอนาคตการตลาดล่ม กระท่อมยังเป็นพืชสมุนไพรประจำบ้านได้ เปิดศูนย์ที่บุรีรัมย์แล้ว
วันที่ 4 พ.ค. 65 อำเภอนางรอง นายไตรเทพ งามกมล สส.พรรคภูมิใจไทย ,น.ส.นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ ,ว่าที่ ดร.ธนันท์รัฐ เจริญเธียร นายกสมาคมคนไทยรักแผ่นดิน ได้เสวนา ให้ความรู้กับสมาชิกผู้ปลูกกระท่อม พร้อมร่วมปลูกกระท่อมปฐมฤกษ์ ให้กับสมาชิกการส่งเสริมปลูกกระท่อม ดังกล่าว เป็นโครงการของหน่วยปฏิบัติการพิเศษตามเจตนาของกระทรวงยุติธรรม และแนวทางรัฐบาล เพื่อสานต่อหลังมีการปลดล็อคออกจากเป็นยาเสพติดประเภท 5 ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกร หรือประชาชนทั่วไป ปลูกกระท่อมครอบครัวละ 5-10 ต้น ไว้ตามหัวไร่ปลายนา หรือหลังบ้านตัวเองที่พอมีที่ดิน เพราะจะใช้พื้นที่ในการปลูกประมาณ 5- 10 ตารางวาเท่านั้น
ว่าดี ดร.นางธนันท์รัฐ เจริญเธียร นายกสมาคมคนไทยรักแผ่นดิน บอกว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการสมัครใจของคนไทยตามแนวศาสตร์ ของพระราชา”ครั้งหนึ่งในชีวิต”(ทำดีเพื่อแผ่นดิน)
การลงพื้นที่ในนามปฏิบัติการพิเศษ ในครั้งนี้ ได้ลงไปยังทุกภูมิภาค มีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมประจำอำเภอ (นายอำเภอสถานี)โดยจะไม่มีข้าราชการ หรืออดีตข้าราชการ ไปยุ่งเกี่ยว โดยทุกจุดที่มีการเปิดสถานี สมาคมได้ทำหนังสือเชิญนายอำเภอ เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีปฏิบัติการพิเศษฯและเรียนเชิญนายกองค์การบริหารส่วนตำบลผู้แทนองค์กรภาครัฐ เป็นสักขีพยานในการเปิดสถานีปฏิบัติการพิเศษฯทุกครั้ง
นางสาวธนันท์ กล่าวด้วยว่า การจัดกิจกรรมขึ้น เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระงานให้กับหน่วยงานราชการ ในการติดอาวุธทางปัญญาให้กับนักเรียน-นักศึกษา,เกษตรกรและผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ต้องราชทัณฑ์ที่อยู่ระหว่างรอการปล่อยตัว ยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชุมชน “ กระท่อมไทยยิ้ม”เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในโรคระบาด โควิด-19
ปัจจุบันสมาคมคนไทยใจรักแผ่นดินได้จัดตั้งสถานีปฏิบัติการพิเศษตาม แนวศาสตร์ แห่งพระราชา”ครั้งหนึ่งในชีวิต”(ทำดีเพื่อแผ่นดิน) ไปแล้วกว่า 100 อำเภอทุกภูมิภาคอย่างรระหว่างการแต่งตั้งอีกกว่า 200 อำเภอซึ่งคาดว่าจะแต่งตั้งให้แล้วเสร็จครบทุกอำเภอทุกจังหวัดภายในปีพ.ศ. 2565
สำหรับแนวทางการปฏิบัติงานของสมาคมฯมีเป้าหมายจะส่งเสริมการปลูกไปทั่วประเทศจำนวน 10 ล้านต้น แล้วจะรับซื้อใบกระท่อม คืนจากเกษตรกรในราคาประกัน กก.ละ 80-200 บาท ขึ้นอยู่กับราคาในท้องตลาดในช่วงนั้นๆ โดยสมาคม จะนำใบกระท่อมไปแปลรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อขายในประเทศและส่งออก
ภาพโดยรวม เกษตรกรจะลงทุนค่าต้นพันธุ์ ต้นละ 100 บาท หรือลงทุนครั้งเดียว 500-1,000 บาทต่อครอบครัว ภายใน 8 เดือนเกษตรกรจะสามารถเก็บใบได้ต้นละ 3 กก.ต่อต้น ต่อเดือน หลัง 3 ปี จะเก็บใบได้เดือนละไม่น้อยกว่า 7 กก.ต่อต้น ต่อเดือน
หากเกษตรกรปลูก 10 ต้น ถ้า กก.ละ 80 บาท จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,600 บาท แต่หากช่วงนั้นราคาถึง กก.ละ 200 บาท จะขายได้เป็นเงินกว่า 10,000 บาทต่อเดือน ถือเป็นรายได้เสริมที่ไม่ยุ่งยาก และกินยาว เพราะกัญชง มีอายุประมาณ 80 ปี
นายกสมาคมไทยรักแผ่นดิน บอกด้วยว่า กระท่อมมีคุณสมบัติรักษาอาการความดันเบาหวานอัลไซเมอร์ลดความอ้วนอีกครั้งปลูกแล้วโตขึ้นกระทำสามารถปลูกลดภาวะโลกร้อนได้ดี แต่การปลูกเพื่อเอามาแปลรูปเอง ยังต้องขอ อย.ส่วนสาเหตุที่ต้องส่งเสริมให้มีการปลูกครอบครัวละ 5-10 ต้น เพราะต้องการทดลองดินในแต่ละพื้นที่ก่อน
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเกษตรกรจะไม่มีความเสี่ยง เพราะลงทุนน้อย ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แต่หากในอนาคตโครงการล่ม ตลาดไม่มีความต้องการ พืช”กระท่อม”ยังเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ประจำครอบครัวที่ดีอีกด้วย
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวบุรีรัมย์