นครปฐม โจรแสบมายืมของวัดเน้นแต่ทองเหลืองเก่าเชิดหายลอยนวล

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2565 ที่อำเภอกำแพงแสนผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสระน้ำส้มมีคนมายืมของวัดเน้นแต่ทองเหลืองที่เก่า และจะเอาหัวพ่อแก่ อย่างอื่นไม่เอา พร้อมบอกว่าจะเอามาจัดงานไหว้ครู ทางกรรมการวัดสงสัยว่าจัดงานคนละพื้นที่คนละตำบลแล้วบอกว่ามาใช้ในตำบลลำเหย แล้วมายืมของใช้ที่วัดสระน้ำส้ม ตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน เน้นยืมของเป็นทองเหลืองอย่างอื่นไม่ยืม ซึ่งทางกรรมการวัดและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เกิดความสงสัยจึงได้ออกไปสอบถามตามพื้นที่คนมายืมของ จากการตรวจสอบไม่มีการจัดงานดังกล่าวในพื้นที่ตำบลลำเหยและใกล้เคียง ทางคณะกรรมการวัดพร้อมผู้ใหญ่บ้านม.18 ต.ห้วยขวางบอกอีกว่าชายคนดังกล่าวที่มายืมของวัดบอกว่าจะนำของใช้มาคืนวันที่ 1 พค.65 แต่แล้วก็หายเข้าเงีบยไปทางผู้ใหญ่บ้านพร้อมกรรมการวัดจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.กำแพงแสนในวันที่ 2 พ.ค.2565 แล้ว ทางด้านผู้ใหญ่วันชัย เอี่ยมพิทักษ์พร ผญบ.ม.18 ได้โพสต์เฟสบุ๊กตามหาชายในภาพว่า

ประกาศตามหาคนในรูปหน่อยครับคือคนในรูปมายืมของวัดสระน้ำส้มไปให้เบอร์โทรใว้ก็โทรติดต่อไม่ใด้ใครรู้จักช่วยบอกให้เขาติดต่อวัดด่วน ครับ….เขาบอกว่าอยู่บ้านใหม่หมู่3 ต.ลำเหย ใครรู้จักคนสองคนนี้ให้เอาของที่ยืมจากวัดสระน้ำส้มมาคืนด้วยครับชื่งในขณะนี้ใด้เลยกำหมดในการส่งคืนหลายวันแล้วไม่สามารถติดต่อใด้เพราะของที่ยืมเป็นทองเหลืองทั้งหมด

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่วัดสระน้ำส้มต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และได้พบกับนายสังวาลย์ อ่อนสด อายุ 63 ปี 116 ม.18 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นกรรมการวัดสระน้ำส้มและเป็นคนขับรถให้เจ้าอาวาสวัดสระน้ำส้ม ฃ

นายสังวาลย์ เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 16.00 น.ได้มาชายผิวดำ แดง ขับจยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาในวัดก่อนที่จะเข้ามาในวัดได้มีภรรยาและลูกนั่งมาด้วยพอจะเลี้ยวเข้าวัดได้จอดรถให้ภรรยาและลูกเล็กวัยประมาณ1-2 ขวบลงปากทางเข้าวัดสระน้ำส้ม

และขับรถจยย.เข้ามาจอดในวัดพร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่วัดที่ดูแลของใช้ในวัดให้กับประชาชนทั่วไปในพื้นที่มายืมของใช้ไปประกอบพิธีต่างๆตามประเพณีซึ่งชายคนดังกล่าวบอกว่าจะนำไปจัดงานไหว้ครูที่ม.3 บ้านใหม่ ต.ลำเหยซึ่งมีพื้นที่ไม่ไกลกันมากนักเป็นหมู่บ้านที่เชื่อมต่อกันระหว่างอำเภอดอนตูมและเขตอำเภอกำแพงแสนต่อมาชายคนดังกล่าวบอกว่าต้องการใช้กระถางธูปใบใหญ่ 1 ใบแจกันทองเหลืองใหญ่ 4 อันเชิงเทียน 4 อัน ที่กรวดน้ำ 1 ชุดและที่จุดเทียนราวหงษ์ใหญ่ 1 ชุดซึ่งของที่ชายคนดังกล่าวขอยืมนั้นเป็นทองเหลืองเก่าอายุ ราวๆ20-30 ปีที่ใช้ในการประกอบพิธีมาแล้วจนนับไม่ถ้วนและยังขอยืมหัวครอบฤาษี และอักษรนะ ที่นั่งของพระจำนวน 9 พืนแต่ชายคนดังกล่าวเอาไปได้แค่ 6 ผืนเนื่องจากชายคนดังกล่าวใช้รถจยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและทางเจ้าหน้าที่ขอบัตรประชาชนถ่ายเพื่อเป็นหลักฐานในการยืมของใช้จากที่วัดแต่ชายคนดังกล่าวบอกว่าไม่ได้เอาบัตรประชาชนมาด้วย ชายคนดังกล่าวนำของที่ยืมไปเอาวางตรงด้านหน้ารถจยย.ที่พักเท้าและเมื่อได้ยืมของใช้ตามที่ชายคนดังกล่าวพอใจแล้วได้ขับรถออกไปจากวัดอย่างรวดเร็วซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดของ อบต.ที่ติดเอาไว้หน้าวัดจับภาพชายคนดังกล่าวเอาไว้ได้

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลและกรรมการวัดต่างเกิดความสงสัยว่าทำไมมายืมของที่วัดสระน้ำส้มซึ่งของใช้ที่วัดลำเหยก็มีและก็อยู่ใกล้กว่าจึงได้ขับรถติดตามใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก็ขับรถตามไปเจอที่หน้าวัดลำเหยพร้อมเจอภรรยาและลูกของชายคนดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ของวัดได้ถามหาบัตรประชาชนจากภรรยาของชายคนดังกล่าวซึ่งหญิงคนดังกล่าวที่เป็นภรรยานั่งซ้อนทายรถจยย.มาด้วยพร้อมยื่นบัตรประชาชนชื่อนางสาวอรุณรัตน์ อินชูกุล อายุ23 ปี 121 ม.8 ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และชายคนดังกล่าวจะนำของที่ยืมมาจากวัดนำมาคืนในวันที่ 1 พ.ค.2565

ทางด้านผู้ใหญ่บ้านพร้อมกรรมการวัดได้มาปรึกษาและตั้งข้อสงสัยชายคนดังกล่าวที่มายืมของใช้ที่วัดสระน้ำส้มจึงได้ออกหาข้อมูลตามที่ชายคนดังกล่าวบอกว่านำมาจัดงานไหว้ครูที่ม.3 บ้านใหม่ ต.ลำเหยนั้นปรากฏว่าไม่มีงานใดๆในพื้นที่ ที่ชายคนดังกล่าวแอบอ้าง ทางด้านผู้ใหญ่วันชัย เอี่ยมพิทักษ์พร ผญบ.ม.18 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดูและความเรียบร้อยครอบคลุมถึงพื้นที่วัดสระน้ำส้ม จึงได้โพสต์ลงเฟสบุ๊กส่วนตัวเพราะรู้แล้วว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ

ต่อมาวันที่ 2 พ.ค.2565 ทางด้านผู้ใหญ่วันชัย เอี่ยมพิทักษ์พร พร้อมกรรมการวัดได้ปรึกษากันจะปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้เพราะของที่วัดสระนำส้มหายเป็นประจำโดยเฉพาะของใช้ภายในวัดถ้ารวมเป็นเงินแล้วมูลค่าหลายแสนบาทจึงได้นำภาพถ่ายชายคนดังดล่าวพร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของภรรยาหญิงสาวที่นั่งซ้อนทายมากับชายคนดังกล่าวที่มายืมของใช้ที่วัดเน้นเป็นทองเหลืองเก่าและภาพกล้องวงจรปิดขณะชายคนดังกล่าวบรรทุกเอาออกไปจากวัดสระน้ำส้มอีกด้วย

ซึ่งทางด้านนายสังวาลย์ อ่อนสด กรรมการวัดได้บอกอีกว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกหญิงคนดังกล่าวที่ส่งบัตรประชาชนให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ดูและของใช้ภายในวัดเพื่อเป็นหลักฐานในการยืมของใช้ในวัด

ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม