แจ้ง 2 ข้อหา “พระบิดา” ลูกศิษย์ยันสมัครใจกินขี้-ฉี่-ขี้ไคล ไม่เคยถูกบังคับ
1 min read
ความคืบหน้าคดี “พระบิดา” นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี ซึ่งอ้างตนว่าเป็นพระบิดาของทุกศาสนาใช้วิธีรักษาแบบพิศดาร ให้ลูกศิษย์การดื่มน้ำปัสสาวะ อุจจาระ ดื่มน้ำลายและเสลด ตลอดจนเศษขี้ไคล ที่พระบิดาขับออกมาจากร่างกายโดยเชื่อว่าเป็นยารักษาโรค และยังพบซากศพอีก 11 ศพนั้น
ล่าสุด วันนี้(9 พ.ค.65) เวลา 10.00 น.พลตำรวจตรีฉลอง สุขจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายอำเภอคอนสาร และกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ มูลนิธิกูภัยต่างๆ รวมกว่า 100 คน เดินทางเข้าไปยังสำนักพระบิดา ที่ ต.ดงบัง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อตรวจค้นสำนักโดยละเอียด และอายัดทั้ง 11 ศพเคลื่อนย้ายไปไว้ที่มูลนิธิชุมแพ เพื่อรอผลการพิสูจน์จากทางนิติเวช จากนั้นจะมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
พันตำรวจเอกวัฒนชัย จันทร์ทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร ยอมรับว่าเนื่องสภาพศพส่วนใหญ่ อยู่ในสภาพที่แห้งและเหลือเพียงโครงกระดูก จำเป็นต้องนำไปเก็บรักษาไว้ในที่เหมาะสม เพื่อรอผลพิสูจน์อย่างเป็นทางการเสียก่อนจึงจะมอบให้ญาตินำกลับไปทำบุญ ส่วนนายทวีนั้น ในช่วงบ่ายของวันนี้ จะได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลอำเภอภูเขียวต่อไป โดยทางตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา คือ 1.บุกรุกป่าสาธารณะ 2.ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพระบิดา บริเวณห้องคุมขัง สภ.คอนสาร ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เล่าว่าตัวเองไม่ตกใจอะไร ผิดก็ยอมรับว่าผิด ตนไม่ใช่หมอรักษาคนแต่ลูกศิษย์มาศรัทธาตัวเอง
ด้านนายสมบูรณ์ ลูกศิษย์ เผยว่า ตนเองเป็นคนชาวอำเภอเกษตรสมบูรณ์และได้ตัดสินใจมาอยู่ศึกษาแนวทางความคิดและวิถีชีวิตที่อาศรมฤาษีแห่งนี้เป็นเวลากว่า 20 ปี ซึ่งที่ผ่านมาทางพระบิดาก็จะกล่าวให้ลูกศิษย์ผู้คนที่อยู่ร่วมกันในอาศรมแห่งนี้ให้มีความเอื้อเฟื้อ แบ่งปัน และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายทั้งยังมีการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยสมุนไพร ซึ่งเรื่องที่ใครจะกินขี้ไคลหรือปัสสาวะของพระบิดานั้น ก็อยู่ที่ความสมัครใจไม่ได้บังคับแต่อย่างใดอีกด้วย
