คดีไม่คืบ!!แม่ร้อง”ทนายโป้ง” ลูกชายวัย 12 ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้ปืนข่มขู่ ขับรถหนีเสียหลักล้มถูกกระบะทับหัวสมองเละ
1 min read
นนทบุรี คดีไม่คืบแม่ร้องทนายโป้ง ลูกชายวัย 12 ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้ปืนข่มขู่ ขับรถหนีเสียหลักล้มถูกกระบะทับหัวสมองเละ
จากกรณี วันที่ 14 พ.ค. 65 เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. บางบัวทอง รับแจ้งเหตุรถปิคอัพเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์แล้วขับหลบหนี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ ด.ช.เก้า มือขุนทด อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นม. 1 โรงเรียนวัดมะสงย่านบางบัวทอง สภาพศพถูกรถทับจนศีรษะแตกสมองกระจาย ส่วนรถจยย.ยี่ห้อ Yamaha รุ่น Fino สีแดง ที่ผู้ตายขี่มาเสียหลักตกลงไปในคลองตาชม ที่เกิดเหตุ บริเวณถนนเลียบคลองตาชม ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
วันนี้เวลา 10.00 น.วันที่ 29 พ.ค. 65 ที่ชมรมทนายความจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางสาวปาริชาติ ธูปน้ำคำ (แม่ผู้เสียชีวิต )อายุ 34 ปี อาชีพ รับเหมาก่อสร้าง พร้อมด้วยนายศรัญญู ชุมไธสงค์ (พ่อเลี้ยง )อายุ 30 ปี อาชีพ รับเหมาก่อสร้าง เดินทางเข้าร้องทุกข์นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้งประธานชมรทนายความจิตอาสา ช่วยติดตามคดีเนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า
จากการสอบถามนางสาวปาริชาติ เปิดเผยว่าวันนี้เดินทางมาพบทนายโป้งเนื่องจากไม่มีความคืบหน้าในคดีที่ลูกชายของตนถูกรถกระบะชนเสียชีวิต โดยวันเกิดเหตุลูกของตนไม่ได้บอกตนว่าออกไปไหน ซึ่งดูจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพครั้งสุดท้ายเวลา 22.13 น.วันที่ 14 ก.พ. 65 ลูกตนได้ขี่จยย.ออกจากบ้านไปหลังจากนั้นตนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกตนเสียชีวิตแล้วจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุทันทีและได้สอบถามเพื่อนของน้องเก้าที่น้องเก้าออกไปหา ก็เล่าให้ตนฟังว่า ก่อนเกิดเหตุน้องเก้าจับกลุ่มเพื่อนและนั่งคุยกันอยู่หลังหมู่บ้านพฤกษา 3 ขณะนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นสวมหมวกกันน็อคเต็มใบขี่จยย.ซ้อนท้ายกันมา 5 คน หลายคนได้ขับวนเวียนก่อนที่จะตรงเข้ามาหาโดยมีการชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ น้องเก้าและเพื่อนๆทั้งหมด 5 คน ตกใจพากันรีบขี่จยย.แยกย้ายกันหลบหนี โดยเพื่อนๆของน้องเก้า 2 คันได้ขี่จยย.เข้าไปหลบหนีในซอยพฤกษา 3 ส่วนน้องเก้าได้ขับจยย.หลบหนีไปทางเลียบคลองตาชมเพียงคนเดียว แล้วเกิดอุบติเหตุถูกรถชนจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งมีคนเห็นเหตุการณ์เป็นไรเดอร์เล่าให้ตนฟังว่า น้องเก้าได้ขับจยย.มาแล้วเสียหลักพลิกคว่ำก่อนจะถูกรถกระบะชนหรือเหยียบซ้ำในเวลาต่อมา ซึ่งบาดแผลของน้องคือถูกรถทับที่บริเวณศรีษะสมองไหล ซึ่งตอนนี้ก็ยังตามกระบะดังกล่าวมารับผิดชอบไม่ได้ผ่านมา 15 วันแล้วยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งกล้องวงจรปิดตนได้ไปขอทางเทศบาลที่รับผิดชอบอยู่บริเวณดังกล่าวก็บอกว่ากล้องเสีย รวมถึงหมดอายุเวลาที่จะเปิดดูได้ ซึ่งตอนหละงเกิดเหตุตนก็ยังยุ่งอยู่กับงานศพของลูก ตอนนี้จึงอยากขอให้ทุกคนที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุใครมีกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุมาให้ข้อมูลกับตนเพื่อที่จะเร่งติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ต่อไป ตอนนี้รู้สึกเสียใจมากจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามความคืบหน้าในคดีนี้
ทนายโป้ง กล่าวว่า ทางด้านแม่ผู้เสียชีวิตจะต้องตามพยานที่เห็นเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของน้องรวมถึงไรเดอร์ที่เห็นเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุไปเป็นพยาน เพื่อที่จะสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนสภ.บางบัวทอง รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด ซึ่งจะต้องให้คุณแม่ผู้เสียชีวิตไปติดตามตามเส้นทางต่างๆเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบต่อไป สุดท้ายฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางบัวทอง ว่าให้ความใส่ใจในคดีนี้ และติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ไม่คิดว่าจะเกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
