“หลวงพี่น้ำฝน” รุกให้ธรรมะในเรือนจำ วางเป้าให้คนเคยผิดไม่กลับสู่เรือนจำซ้ำซาก

หมดเวลาดราม่า หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เข้าพื้นที่ปิดให้ทางธรรมคนคนถูกจองจำ เปิดบรรยายธรรม หัวข้อ “ใช้ชีวิตในเรือนจำให้มีความสุข” ทำผู้ต้องขังแดน 5 เรือนจำกลางนครปฐม ปรับความคิดอยู่ให้ได้ในช่วงไร้อิสรภาพ เตรียมเดินหน้าจัดอบรมธรรมปรับวิธีคิดกลับใจ เตรียมออกไปสู่สังคมโดยไม่กลับมาอีก

วันนี้ 1 มิถุนายน 2565 ที่แดน 5 เรือนจำกลางนครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จัดบรรยายธรรมมะ ในหัวข้อ “ใช้ชีวิตในเรือนจำให้มีความสุข” โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังแดนแรกรับและผู้ต้องกักกัน ได้เข้าร่วมรับฟังเพื่อนำไปปรับทัศนคติในช่วงที่ต้องถูกควบคุมพื้นที่และถูกจองจำในช่วงที่อยู่ในเรื่อนจำกลางนครปฐม

ก่อนพิธีการบรรยายธรรม หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้เข้าหารือกับ พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม และเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครปฐม พร้อมตรวจเยี่ยมสถานที่เพื่อสำรวจการช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินการของเรือนจำกลางนครปฐม เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเกิดประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้นและสามารถเข้าถึงการดูแลผู้ต้องขังซึ่งปัจจุบันมีกว่า 3,800 คน

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า ในการบรรยายธรรมดังกล่าวในหัวข้อ “ใช้ชีวิตในเรือนจำให้มีความสุข” ได้นำหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ง่ายที่สุดมาบรรยายให้กับผู้ต้องขังและผู้กักกัน ได้รับฟังในช่วงแรกที่ต้องถูกควบคุมพื้นที่และเริ่มกับกับชีวิตที่ไร้อิสรภาพ โดยให้ปรับที่ใจ ปรับที่ความคิด และใช้เวลาที่มีทบทวนถึงสิ่งที่ได้กระทำผิดก่อนจะถูกตัดสินให้มาอยู่ในพื้นที่ที่ควบคุม

“อาตมาได้เข้ามาเรือนจำครั้งแรกหลังจากเคยมีการควบคุมพื้นที่ของเรือนจำ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งตั้งแต่ครั้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านได้เข้ามาบรรยายธรรมบ่อยครั้ง เพราะคาดหวังว่าจะให้คนที่หลงผิดได้กลับใจ อาตมาพร้อมจะสืบสานสิ่งนั้นอีกครั้ง เพราะช่วงนี้พบคนที่มีปัญหาเยอะมาก สุดท้ายก็กลับมากระทำความผิด หากได้นำทางธรรมหลักคำสั่งสอนมาให้ทางสว่างกับคนเหล่านี้เราจะป้องกันให้เขาไม่กลับไปกระทำความผิดไม่มากก็น้อย” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า นับจากนี้จะให้เวลาอีกส่วนหนึ่งกับการเข้าบรรยายและเข้าถึงผู้กระทำผิดในเรือนจำกลางนครปฐม เพื่อช่วยเหลือให้สังคมสงบสุขขึ้น หรืออาจจะมีโครงการอบรมธรรมมะ ก่อนที่ผู้ต้องขังจะถูกปลดปล่อยออกไปสู่สังคมเพื่อเป็นภูมิให้เขาเหล่านั้นด้วย ซึ่งจะหารือกันอีกครั้ง แต่จะต้องทำแน่นอน และยังได้ฝากบอกถึงผู้ต้องขังว่าหากออกไปแล้วยังไม่มีงาน ขอให้ไปพบที่วัดไผ่ล้อมจะหางานเพื่อสร้างชีวิตใหม่ ไม่ให้เป็นภาระสังคมต่อไป

ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม