นครนายก สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นองค์ประธาน ประกอบพิธีเบิกเนตร พระพุทธรูปบามิยัน สูง 8 เมตร
1 min readวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่วัดมณีวงศ์ ต.ดงละคร อ.เมือง จ.นครนายก พระครูปิยรัตนานุกูล (หลวงพี่ต่อ) ประธานมูลนิธิวังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราชราชา จัดพิธีบวงสรวงเบิกเนตรพระพุทธรูปบามิยัน ความสูง 8 เมตร ประดิษฐานในถ้ำพญานาควัดมณีวงศ์ บริเวณลานหน้าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวพุทธได้สักการะ กราบไหว้ ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล
ในการนี้ เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ได้เมตตาเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเบิกเนตร พระพุทธรูปแห่งบามิยัน ความสูง 8 เมตร พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ และพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา จำนวน 109 รูป โดยมี นางสาวณิชชา สารพุทธิเดชา นางสาวโชติกา ลลิเจริญ ประธานดำเนินการจัดสร้าง และคณะญาติพี่-น้อง พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 นายปพนศักดิ์ ขันติชัยมงคล ปลัดอาวุโสอำเภอเมือง นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร สนง.วัฒนธรรมจังหวัดนครนายก สนง.พระพุทธศาสนาจังหวัดนครนายก ตลอดจนคณะศิษยานุศิษย์ผู้มีจิตรศัทธา ร่วมพิธีจำนวนมาก
เมืองบามิยัน เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศอัฟกานิสถานในปัจจุบัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองของศาสนาพุทธ ที่ยังหลงเหลือร่องรอยความยิ่งใหญ่ปรากฏให้เห็นอยู่บ้างถึงปัจจุบัน แต่เป็นที่น่าเสียดาย เมื่อ 2 หลักฐานสำคัญของความรุ่งเรืองในศาสนาพุทธของเมืองบามิยัน นั่นคือพระพุทธรูปขนาดยักษ์ที่เกิดจากการแกะสลักเข้าไปหน้าผาสององค์ ได้ถูกทำลายลงด้วยฝีมือของกลุ่มตาลีบันเมื่อปี 2001 จนไม่เหลือซาก ความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์ จึงคงเหลือให้เห็นเพียงภาพถ่าย หรือภาพเขียนซึ่งจะเห็นได้ว่าองค์พระทั้ง 2 ที่หลงเหลือก่อนถูกทำลายก็อยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมจนไม่เหลือพระพักตร์ให้เห็น จนคาดเดาได้ยากว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธรูปทั้ง 2 อยู่ในสภาพสมบูรณ์จะมีความงดงามเพียงใด แต่ทั้งหมดล้วนเป็น “อนิจจัง” เพราะพระพุทธรูปขนาดยักษ์ทั้งหลายในบามิยันไม่มีหลงเหลือให้คนในยุคปัจจุบันได้พบเห็นอีกต่อไป แม้ปัจจุบันจะมีความพยายามที่จะก่อสร้างพระพุทธรูปแห่งบามิยันขึ้นมาใหม่ แต่นั่นก็หาใช่พระพุทธรูปองค์เดิม
ภาพ/ข่าว สมบัติ เนินใหม่ //รัชชานนท์ เนินใหม่// ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก