ศิษย์วัดไผ่ล้อม รวมตัวแก้บนปิดทอง ถวายกล้วย พระองคุลิมารเถระ หลังถูกหวยครั้งมโหฬาร 520ใบ

คึกคักถ้วนหน้า เจ้าหน้าที่ ศิษย์วัดไผ่ล้อม รวมตัวร่วมพิธีสวดฉลองพระองคุลิมารเถระ ทางเหลืองสูง 3 เมตร จัดสร้างแล้วเสร็จอ ขนกล้วย 108 เครือ หนัก 1.3 ตัน พร้อมถวายเงินคณะสงฆ์ รูปละ 2,000 บาท หลังถูกเลขท้าย2 ตัว เลข 53 จำนวน 520 ใบ รับเงินปลดหนี้ 1.04 ล้านบาท หลังส่องหยดน้ำตาเทียน ขึ้นเลขชัดเจน สุดท้ายได้เฮ เชื่อบารมีพระองคุลิมารเถระ ให้โชคเน้นๆ

วันที่ 19 กรกฎาคม 65 ที่ลานหน้าพระองคุลิมารเถระ วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝนได้มีการจัดพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นมงคลในการก่อสร้างพระองคุลิมารเถระ เนื้อทองเหลืองขนาดความสูง 3 เมตร ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยขั้นตอนสุดท้าย คือการประดับดวงตาและปิดทองทั่วทั้งองค์ ซึ่งได้ประดิษฐานอยู่ในพื้นที่ระหว่างวิหารพระพุทธเมตตาประทานพรและศาลาหลวงพ่อพูล เพื่อให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชน ได้กราบไหว้บูชา ในการเป็นต้นแบบในกลับตัวกลับใจเป็นคนดี สำหรับคนที่เคยหลงผิด และเป็นสัญลักษณ์แห่งความดีในการเดินตามรอยพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

โดยวันเดียวกัน ได้มีคณะเจ้าหน้าที่วัดไผ่ล้อม ที่ได้นำปัจจัยมาร่วมถวายในการปิดทองพระองคุลิมารเถระ และนำกล้วยจำนวน 108 เครือเพื่อมาแก้บนหลังจากที่เจ้าหน้าที่วัดไผ่ล้อม ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว เลข 53 ครั้งมโหฬาร จำนวน 520 ใบ รวมยอดเงินที่ได้รับถึง 1,040,000 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่วัดรวมถึงลูกศิษย์ลูกหาได้หาซื้อเลขดังกล่าวไว้ เนื่องจากเป็นเลขที่ปรากฏจากหยดน้ำตาเทียนที่หลวงพี่น้ำฝน ได้ทำน้ำมนต์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ได้มีการนำรูปหล่อพระองคุลิมารเถระมาตั้งประดิษฐานที่วัดไผ่ล้อม หลังจากมีพิธีเททองหล่อ เสร็จสิ้น

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่วัด บอกว่า ในวันดังกล่าว ปกติเจ้าหน้าที่วัดไผ่ล้อมก็ไม่ได้หาซื้อเลขกันมากขนาดนี้ แต่วันดังกล่าวในช่วงที่มีการสวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่ออัญเชิญพระองคุลิมารเถระ หลวงพี่น้ำฝน ได้มีการหยดน้ำตาเทียนลงในอ่างน้ำมนต์ ซึ่งคนสนิทที่บอกว่าประหลาดใจเพราะหลวงพี่น้ำฝนไม่ได้ทำน้ำมนต์ ด้วยการหยดน้ำตาเทียนมาแล้ว ซึ่งหลังเสร็จพิธีกำลังจะนำน้ำมนต์ไปตั้งเพื่อให้คนที่มาทำบุญในวัดได้มาตักไปบูชา ก็ปรากฏว่าน้ำตาเทียน ได้เรียงตัว เห็นเป็นเลข 653 ชัดเจน ซึ่งคนในวัดก็ไม่ได้บอกใคร ได้แต่บอกกันเองและได้ไปสั่งแม่ค้าให้หาเลขดังกล่าวไว้ให้หลายคน คนละ 10 ใบก็มี 20 ใบก็มี ซึ่งพอออกรางวัลมาแล้ว ก็ถึงกับตกใจว่า เจ้าหน้าที่กับศิษย์หลวงพี่น้ำฝน และศิษย์ของหลวงพ่อพูล ได้มีการนับดูว่าใครถูกบ้างปรากฏว่ามีตัวเลขถึง 520 ใบ ได้เงินรวมกว่า 1 ล้านบาท

นายพีรภัทร อั้นบุญโท มาร์คกี้ เจ้าหน้าที่วัดบอกว่า เลขดังกล่าว ก็คิดว่าเอาไว้ว่าจะออกเพราะปกติเลขของวัดไผ่ล้อมจะออกบ่อย แต่ไม่ได้มีการพูดบ้างว่าใครได้เลขไปส่วนใหญ่จะเป็นที่กุมารสมบัติ แต่ครั้งนี้หลายคนได้พยายามหาเลขเด็ดจากพิธีต่างๆ เพราะคิดว่าทุกครั้งที่มีการสิ่งที่ได้จัดสร้างมาขึ้นที่วัดไผ่ล้อมมักจะมีเลขถูกรางวัลเสมอ ซึ่งครั้งนี้ดีใจมากเพราะว่าเงินที่ได้มาก็ได้นำไปใช้หนี้กันหลายคนเพราะเป็นหนี้เป็นสินกันตั้งแต่ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งวันนี้ดีใจมากที่ได้ปลดหนี้สินกันได้

ขณะเดียวกัน นางพิมพ์นารา จิระพัทธ์สกุล หรือเจ๊หมวย แม่ค้าสลาก ซึ่งทราบข่าว ได้เดินทางมาที่วัดไผ่ล้อม เพื่อขอรับขึ้นรางวัลเลขท้ายทั้ง 520 ใบ โดยประกาศขอรับขึ้นรางวัลจากเจ้าหน้าที่ทุกคนโดยที่ไม่คิดค่าเปอร์เซ็นต์ใดใด และได้เบิกเงินจำนวน 1,040,000 บาท มาเพื่อขอรับสลากกลับไป โดยบอกว่าขอร่วมทำบุญกับวัดไผ่ล้อมในการจัดสร้างพระองคุลิมารเถระ ครั้งนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง ที่มีการสวดเจริญพระพุทธมนต์ หลวงพี่น้ำฝน ได้ทำน้ำน้ำมนต์ สำหรับแจกจ่ายให้ญาติโยมที่เดินทางมาทำบุญที่วัดไผ่ล้อม ซึ่งหลังจากจบพีคณะศิษย์และผู้ที่เข้ามาร่วมในงาน ได้เข้าไปส่องหาเลขเด็ด เหมือนเดิมและมีคนตาดี มองเห็นเลขจากไส้เทียนที่อยู่ในอ่างน้ำมนต์ 2 ต้น ปรากฏเป็นเลข 5 ต้นหนี่งและเลข 1 อีกต้นหนึ่งซึ่งหลายคนได้เข้ามาบันทึกภาพเอาไว้สำหรับพิชิตกองสลากในงวดหน้าด้วย

สำหรับพระองคุลิมารเถระ เดิมชื่อว่า อหิงสกะ หมายถึง ผู้ไม่เบียดเบียนใคร เป็นบุตรปุโรหิตในพระราชสำนัก เมื่อเติบโตขึ้นได้ถูกส่งไปเรียนศิลปศาสตร์ยังเมืองตักสิลา และเป็นคนเก่งเรียนดีเป็นที่รักของครูอาจารย์ทำให้ศิษย์คนอื่นริษยา จึงได้ออกอุบายกันว่าอหิงสกะจะทำร้ายครูอาจารย์ เมื่ออาจารย์ได้ยินซ้ำคิดว่ามีมูล ก็คิดกำจัดอหิงสกะ ซึ่งจะฆ่าให้ตายก็ไม่ได้ จึงได้ออกอุบายบอกว่าหากจะร่ำเรียนวิชาจะต้องฆ่าคนตายให้ครบ 1 พันคน และได้ฆ่าคนโดยการตัดนิ้วมาร้อยเอาไว้เพื่อนับจำนวน ซึ่งเรื่องก็ดังเข้าไปถึงในวัง และแม่ก็คิดจะพากลับเข้าวัง แต่เมื่อองค์พระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้สำรวจสัตว์โลก จึงได้ออกไปโปรดองคุลีมาร เพราะอาจจะฆ่ามารดาของตนเองได้
เพราะสังหารไปแล้ว 999 คน และเมื่อองคุลีมารได้เห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็พยายามจะฆ่าให้ครบ 1 พันคน โดยวิ่งตามเท่าไหร่ก็ไม่ทัน กระทั่งตะโกนให้หยุด จนเกิดประโยคที่ว่า “เราหยุดแล้ว องคุลีมาร ท่านเล่าจงหยุดเถิด” หมายถึงหยุดฆ่าคน ทำให้เกิดปัญญา ก่อนองคุลีมารจะขอบวชเป็นศิษย์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหน้าจนถึงเป็นพระอรหันต์

โดยการที่มีการนำกล้วยมาแก้บน เป็นส่วนหนึ่งที่ปรากฏในพระปริตรบทหนึ่ง คือ คืออังคุลีมารพระปริตร ที่นิยมใช้เพื่อสตรีคลอดบุตรง่าย ปลอดภัยและเป็นพระปริตรสำหรับพระเสาร์ตามคติเทวดานพเคราะห์ จึงได้นำผลไม้มาเป็นการแก้บนเนื่องจากเป็นการลดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตด้วย ส่วนกล้วยที่มาแก้บนก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับคนที่มาทำบุญรวมถึงจะนำไปแปรรูป เป็นกล้วยตาก กล้วยแขก กล้วยฉาบ กล้วยบวชชี เพื่อเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแจกฟรี ในช่วงที่ยังมีประชาชนเดือดร้อนกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันด้วย

ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม